tp:=โหมโรงด้วยคน tg:= op:=ขออภัยที่หายไปนาน แต่ว่าที่จริงก็ไม่รู้มีใครรออ่านอยู่บ้างหรือเปล่า พอดีเน็ตที่ใช้อยู่เกิดอาการดื้อกระทันหัน เข้าเว็บอื่นได้ปกติหมด ยกเว้นเว็บที่ทำเอง หลอกให้เราคิดว่าเซิร์ฟเวอร์เสียหรือนี่ อุตส่าห์รีบสำรองข้อมูลโดยด่วน ถึงได้เปิดดูแล้วพบว่าเว็บญาติๆ ข้างเคียงเขาก็โพสต์กันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมไม่มีใครมาบ่นเลยว่าเว็บเจ๊ง เลยรู้ตัวว่าดื้อซะแล้วเน็ตตู ... เอาเป็นว่าตอนนี้เปลี่ยนเจ้ามาใช้ทีโอทีแล้ว เข้าได้ปกติแล้ว ถึงจะโหลดช้าหน่อยแต่ก็ดีกว่าเข้าไม่ได้ แหม่ ไม่ได้เข้ามาเดือนกว่าๆ เรื่องที่คิดว่าจะเขียนเลยหดหายหมด! เห็นน้องชอเอมเขียนเรื่องโหมโรงบ๊อยบ่อย ราวกับว่าเป็นหนึ่งในทีมงานก็ปานนั้น (หรือว่าที่จริงแอบเป็นแล้วไม่เปิดเผยตน..) ประจวบกับความที่อยากไปดูหนังของคนที่ชื่อ อิทธิสุนทร ว่าจะเป็นยังไง หนังเรื่องแรกของเขาเราก็ไม่เคยได้ดู รู้สึกว่าจะรู้จักเขาจากกลุ่มซูโม่สำอาง (ซูโม่อิท) คือรู้ว่าคนไหน รู้ว่าจบถาปัด และคลุกคลีกับเฉลียง มั้ง.. คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยซื้อหนังสือที่เขาเขียนด้วยหนึ่งเล่มถ้วน แต่จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว เป็นยุคแรกๆ ที่สำนักพิมพ์มติชนมาบุกตลาดหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คแบบอ่านเล่น หลังจากประสบความสำเร็จกับหนังสือรวมเรื่องสั้นหักมุมจบของสรจักร (ว่าแต่ ตอนนี้เขาหายไปไหนหนอ) เมื่อราวๆ 5 ปีที่แล้ว.. อ้อ ถ้าใครมีอายุนิดนึง ก็น่าจะจำมิวสิควีดิโอ เพลงเร่ขายฝัน (แบบหนังแมดแม๊กซ์) ได้ เขานี่แหละผู้ช่วยกำกับ และก็แต่งเพลงๆ นึงให้เฉลียงด้วย เป็นอีกเพลงที่ชอบ ชื่อเพลงโลกกลมๆ ... ครับ พูดมายืดยาวยังไม่เกี่ยวกับหนังเลย สรุปเป็นว่าเราก็ได้ไปดูโหมโรง อันเป็นหนังที่เขาเขียนและกำกับเป็นลำดับสอง เมื่อวันเสาร์นู้น แต่ว่าดูโรงหนังควบติดสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย สนนราคาสองเรื่อง 50 บาท ... เล่าแบบนี้อาจมีคนเคืองได้ว่าไม่สนับสนุนหนังไทย แต่ไม่มีรายได้มากพอจะไปดูโรงปกติจริงๆ และเดาว่าผลตอบแทนที่คนทำหนังได้จากโรงควบ คงไม่ต่างไปจากโรงปกติเท่าไหร่.. เล็งไว้ตั้งแต่ควบกับ คน ผี ปีศาจ หนังที่เป็นแนวอินดี้ๆ อำนวยการสร้างโดยป๋าเต้ด.. แต่สุดท้ายไม่มีเวลา มามีเวลาเอาก็กลายเป็นควบ ผีช่องแอร์ ไป.. โอ้ ไม่น่าไปว่าเขามากเลย สุดท้ายดวงเราก็ต้องมานั่งดูผีช่องแอร์จริงๆ แบบไม่คาดคิด.. หนังเรื่องโหมโรงนั้น บอกตรงๆ ว่ายังไม่ถึงกับเป็นหนังที่เราต้องไปดูรอบสอง ... อาจเป็นเพราะว่าเราก็ไม่เคยดูเรื่องไหนสองรอบในโรงอยู่แล้ว นอกจากประทับใจมากแล้วหาซื้อสื่อบันทึก พวกวีซีดี มาเก็บไว้ อันนั้นถึงได้ดูหลายรอบหน่อย ... แต่ถึงจะบอกว่าไม่ได้อยากดูรอบสอง กระนั้นตอนดูรอบแรกรอบเดียว ก็ทำให้เราร้องไห้ (อีกแล้ว!) ได้ตั้งแต่ฉากแรกๆ ไปจนจบเลยทีเดียว (แล้วดูยังไงวะร้องไห้ทั้งเรื่อง.. ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แค่เรียกน้ำตาคลอๆ จากความประทับใจได้) จะเล่าว่าฉากไหนก็จำไม่ค่อยได้เสียแล้ว นานแล้ว ... น้องยุไปดูอยู่ข้างๆ ถามว่าร้องไห้อะไรกันนักหนา มีใครเขาร้องไห้กันบ้าง ..อันนี้เราก็ตอบไม่ได้ ก็มันประทับใจนี่หน่า ไม่ได้เศร้า คนเราเวลาประทับใจกับภาพ (และเรื่องราวที่เห็น) ก็น้ำตาไหลได้ แค่นี้ไม่เข้าใจ.. หนังที่ทำให้เราร้องไห้ได้มากที่สุด คือ ว้อทดรีมเมย์คัมส์ แสดงโดยโรบิน วิลเลียม (ประมาณ 5-6 ปีก่อน) ประทับใจในความรักของคนคนหนึ่งที่จะให้กับคู่ชีวิตของเขาได้ (ถึงแม้ว่าจะรักเมียมากกว่ารักลูกก็เถอะ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ขืนหนังทำมาให้รักลูกด้วย มันจะไม่ประทับใจมากเท่านี้) เรื่องราวความรัก บวกกับภาพที่ใช้เทคนิคตระการตา สวยมาก ก็เลยเกิดอาการซึ้ง... ส่วนอันดับสองรองลงมาเห็นจะเป็น โหมโรง นี่แหละ เนื้อเรื่องโดยรวมแล้วเราว่าจบห้วนไปหน่อย คือเหมือนว่าเทน้ำหนักไปให้ชีวิตวัยหนุ่ม กับเหตุการณ์ขุนอินมากๆ แล้วตอนแก่กลับใส่เรื่องประทับใจน้อยกว่า มันเลยดูเอียงๆ รู้ว่าจะเล่าเรื่องหนุ่มกับแก่ควบคู่กันไป แต่ตอนหนุ่มนั้นทุกฉากเร้าใจ พูดน้อยต่อยหนัก พอเหตุการณ์ตอนแก่กลับไม่แรงเท่า พงษ์พัฒน์ก็ไม่แรงพอ ไม่รู้ทำไมยอมง่ายอย่างนั้น ... แถมตอนจบ บทจะจบก็จบเฉยเลย กะลังร้องไห้ๆ อยู่ อารมณ์ค้างเลย แบบว่าทิ้งท้ายไม่อิ่มน่ะ.. สุดท้ายเลยคิดว่าเรื่องนี้ขุนอินท่าจะดังไม่น้อย.. (หมายเหตุ ขุนอินคนนี้ มีชื่อว่า ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า ... ไม่รู้ว่าเป็นญาติอะไรกับ ชัยยุทธ โตสง่า ระนาดเอกแห่งวงบอยไทย ... ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพี่ชาย.. เขาคนนี้มีสำเนียงระนาดทุ้ม ในอัลบั้มบอยไทยชุดแรกสุด และตอนนี้กำลังวางขายโปรเจ็คบางกอกอะคูสติก อยู่พอดี เป็นงานแนวใกล้เคียงวงบอยไทย คือดนตรีไทยผสมสากลในจังหวะต่างๆ ทำร่วมกับฝ่ายสากลคือ หนึ่ง ณัฐวุฒิ มือกลองที่เป็นแกนนำกับบอยไทยด้วย และเป็นมือกลองวงเรฟโวลูชั่นนั้นแล.. พูดถึงอัลบั้มของบางกอกอะคูสติก เพิ่งฟังไปได้รอบเดียวเมื่อเช้า รู้สึกไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แปลกใจที่คนขายกระซิบว่าขายดีโคตรๆ ทั้งที่บอยไทยขายได้แค่แผ่นเดียว ก็คือแผ่นที่เราซื้อเองนั่นแหละ.. นี่อิทธิพลจากหนังหรือเปล่าหนอ หรือว่าคนอื่นฟังแล้วชอบจริงๆ ก็สุดจะเดา.. เราเองว่ารวมๆ แล้วยังไม่จับใจพอ คงต้องลองฟังรอบสองสามก่อนแล้วค่อยว่ากัน) ที่จะชมหนังโหมโรงคือเรื่องการใช้สี สุดยอดมาก ไม่รู้มีใครสังเกตหรือเปล่า ดูแล้วมันได้อารมณ์ดีแท้ ... ฉากที่เห็นชัดก็คือ ฉากที่บุ๋มบิ๋มแสดงนั่นแหละ ก่อนจะไปเจอกับขุนอินครั้งแรก.. ฉากนั้นโทนสีเขียวๆ สวยมาก นักแสดงก็ใส่เสื้อเขียวๆ หน่อย กำแพงก็เขียว เขียวไปหมด ดูแล้วร่มรื่นจริงๆ พอประชันกับขุนอินเท่านั้นล่ะโอ้โห มืดฟ้ามัวดิน.. เข้าใจสร้างอารมณ์เนาะ.. หรืออย่างในวังก็เลื้องเหลือง มาเชียว ก็ให้บรรยากาศไปอีกแบบ.. (เอ้อ แขกรับเชิญเซอร์ไพรซ์ก็คือพี่เล็ก สมชาย เฉลียงรุ่นแรกสุด นี่แหละ.. ตกใจครั้งแรกตอนเจอหน้าพี่แกในมนต์รักทรานซิสเตอร์ ไม่นึกเลยว่าหลังจากนั้นจะเล่นหลายเรื่อง อย่างบุปผาราตรีเงี้ย..) อ๊ะ เขียนยาวไปกว่านี้อาจไม่ดี อาจโดนน้องชอเคืองได้ (รึเปล่าหว่า..) ไม่รู้เขียนมานี่เน้นชมหรือเน้นติ แต่ว่านี่ก็เป็นความคิดของเราล่ะเน้อ นึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไรแล้ว เอาเป็นว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบนะ ไม่เสียดายที่ได้ดู แค่เห็นคนหันมาสนใจความเป็นไทยก็ดีใจแล้ว แต่ก็ไม่ได้เขียนชมหนังมากมาย เพราะว่ามีที่ไม่ถูกใจปนๆ กันไปด้วย คือไม่ถึงกับประกาศว่าคนไทยทุกคนต้องดูหรอก ไม่ดูก็ไม่เป็นไร แค่เป็นหนังที่คนที่สนใจควรหาโอกาสไปดู เพราะรับรองว่าจะชอบ... เอ้อ มานึกอีกทีมีเรื่องที่ยังไม่เคลียร์ ก็คือ 1. ผู้หญิงที่พระเอกของเราไปเจอในวัง ใช่คนเดียวกับที่มาเป็นคู่ชีวิตตอนแก่หรือเปล่า.. 2. ลองวิเคราะห์ว่าคนที่ไปดูในโรงเกินหนึ่งรอบนั้น เป็นเพราะอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน.. วานช่วยไขข้อข้องใจให้ที! :] us:=นวย.:am:. - 08/04/2004 00:14 ๏+๏- op:=ลืมไปว่า ที่อยากชมอีกเรื่องคือ คนแสดงนำนี่เขาอุตส่าห์ซุ่มซ้อมหัดระนาดมาเล่นจริง (ถึงจะรู้ว่าเสียงที่ได้ยินมันไม่ใช่ แต่ท่าทางน่ะเรียกว่า ใช่ เลยนะ) ยอมรับในความตั้งใจของเขาเลย และก็รวมถึงคุณอดุลย์ (เอ๊ะใช่ชื่อนี้หรือเปล่า) ที่แสดงเป็นพระเอกตอนแก่ด้วยนะ ลีลาท่าทางทั้งตอนเล่นระนาด และตอนพูดคุยนี่ เยี่ยมไปเลย.. us:=นวย.:am:. - 08/04/2004 00:23 ๏+๏-๏- op:=นึกว่าเราเข้าไม่ได้อยู่คนเดียวซะอีก ที่แท้พี่นวยก็เข้าไม่ได้ด้วย ฮ่า ฮ่า (หัวเราะสะใจ ^ ^' ) ง๊า พี่นวยใจร้าย ...หนูจะเคืองทำไมเนี่ย...ไม่เข้าใจ ไม่ได้มาหลับหูหลับตาสาดโคลนโดยที่ไม่ได้ไปดูซะหน่อย(ถ้าแบบนั้นไม่แน่ ฮึ่ม.. ) สรุปว่าหนังเรื่องนี้ทำให้ซีดีของพวกบอยไทย กอไผ่ ขายดีขึ้น ขุนอินก็ดังขึ้น ผู้กำกับ ... ใครๆก็ดังหมด ยกเว้นพระเอกกะนางเอก :P ปล. มีแต่คนออกมาบ่นว่าจบเร็วเกิน เช็ดน้ำตาไม่ทัน - -" us:=Shau_Leuw_Hiang - 11/04/2004 10:36 ๏+๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-