tp:=แต่งเพลงล้วนๆ tg:= op:=วันก่อนพี่อ๋งมีทำนองใหม่มาเป็นโปรเจ็คแต่งเพลงร่วมกันอีกครั้ง หลังจากคราวแรกดูเหมือนจะได้ผลที่ดีเมื่อสองปีที่แล้ว (เพลงปล่อยใจ) เว้นช่วงไปนานจนเราสงสัยอยู่ในใจว่าอัลบั้มต่อไป ที่ตอนนี้ทิ้งช่วงจากอัลบั้มที่แล้วตั้งห้าปีกว่า คงไม่ได้ทำกันแน่นอน ดูกิจจาซหัวเรือใหญ่ด้านดนตรีซิปะไร เดี๋ยวนี้ไปออกอัลบั้มกับโมโนโทนนู่นแล้ว อาจจะไม่ดังมากแต่ก็มีงานล้นมือทั้งงานทำเพลงและงานแสดงดนตรี คงไม่มีเวลามาทำอะไรเล็กๆ อย่างนี้แล้ว (อันที่จริงถึงพี่อ๋งว่าไว้แบบนี้แต่เราเองยังไม่ฟันธงนัก กิจจาซอาจจะยังอยากทำะไรแบบนี้อยู่ก็ได้ ดูเพลงแต่ละเพลงในชื่อกิจจาซสิ มันแนวทดลองแบบ myr ชัดๆ) ยังไงต้องรอดูกันต่อไป ไม่รู้เป็นอะไร วันนี้ดันนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา เป็นเพลงที่แต่งเองด้วยอารมณ์หนุกๆ ปนเพ้อๆ ให้กับคนที่เราไปตกหลุมรักแต่แรกเจอ.. แต่งแล้วก็ไม่กล้าให้ฟัง จนตกลงปลงใจเป็นอะไรกันแล้วนั่นแหละถึงได้ลองเอาให้ฟังดู.. เธอก็ว่าไม่เห็นจะน่าแอบตรงไหน ไม่ได้น่าเกลียดเสียหน่อย หลังจากนั้นมามีคนชมชอบเมื่อได้ไปโหลดจากเว็บเก็บเพลง (ห้องใต้ดิน) มาฟังอยู่บ้าง ยิ่งทำให้เราปลื้มใจ ..เนื้อเพลงก็มีอยู่ว่า.. {small}เจอะคนน่ารักแค่เพียงผ่าน ก็อยากทักเธอนานนาน แค่อยากจะรู้ว่าใจเธอนั้น มีคนที่ฝันและคอยใฝ่ จริงหรือไม่ คนนั้นใคร อยากจะบอกรักแค่เพียงเอ่ย แต่ไม่รู้ใจเธอเลย ว่าหากเธอคิดบางอย่างกับฉัน ดังสิ่งที่ฝันและคอยใฝ่ ปองครั้งใหญ่ คงเหมือนกัน * ทุกเสี้ยวนาทีข้างข้างเธอ ฉันเก็บกลับไปนอนเพ้อ ว่าหากได้คู่กัน และหากได้ใกล้กัน คงสุขสันต์ ทุกเสี้ยวนาทีที่พูดกัน ฉันเก็บกลับไปนอนฝัน ว่าหากได้คบกัน และหากได้รักกัน ก็พอ{/small} รู้สึกไปว่าตัวเรามองโลกสดใสจัง แล้วเลยย้อนไปคิดถึงอีกหลายเพลงที่เคยแต่ง โดยเฉพาะเพลงที่ชื่อว่าปล่อยใจ ว่าทำไมช่างแต่งได้คำลงตัวขนาดนั้น อย่างประโยคแรก {small}...บางคราวที่ใจได้ผ่อนได้ลงพัก หยุดคิดวุ่นวายหนัก คงจะทำให้ใจคลายเหนื่อยกับความรัก ฯลฯ...{/small} ทั้งวรรณยุกต์และสัมผัสมันกลมกลืนเมโลดี้กับจังหวะอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ถ้าเป็นคนอื่นแต่งเราคงชื่นชมว่ามันคิดคำได้ไง (ยอตัวเองไปหน่อยแล้วแบบนี้) คือที่ว่ามาก็เพื่อจะสรุปว่าเดี๋ยวนี้วัยทำงานแล้วชักสดใสไม่ค่อยออก จะคิดอะไรสร้างสรรค์แต่ละทีแสนนาน ของอย่างงี้ไปบังคับมันให้รีบคิดออกก็ไม่ได้เสียด้วย คนที่เป็นนักแต่งเพลงเขาเก่งกันจัง ถ้าไม่ใช่ฝึกมาดีก็คงยิ่งต้องทึ่งกับพรสวรรค์ที่ติดตัวมา คนเราไม่ใช่จะมีไอเดียไหลได้ตลอดเวลาไม่หยุดไม่หย่อนกันทุกคน พี่บอย ตรัย ฟรายเดย์ หรือนามปากกาเซนเทรดี้ ผู้มีวันเกิดตรงกับเราอย่างมิได้นัดหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงอาชีพในอนาคตไว้ว่า จะแต่งเพลงไปจนตาย ฟังแล้วดูมีอุดมคติดี แต่ก็กลัวแทนเขาว่าเกิดวันหนึ่งไม่มีไอเดียขึ้นมามิแย่เอาเหรอ ของแบบนี้ประกาศไปจะดีเหรอ แต่ก็นั่นแหละ เขาจะโปรโมทอัลบั้มเดี่ยวของเขาในสังกัดเบเกอรี่นี่หน่า ตอบแบบนี้ก็เท่ดี ที่จริงเราก็อยากเป็นได้แบบนั้นแหละนะ ตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็แค่รอเวลาแล้วก็ไปซื้ออัลบั้มนี้มาฟังในฐานะแฟนเพลงคนหนึ่งก็เท่านั้น อนาคตยังไกลเหลือเกิน .. เออจะว่าไปแล้ว ชอบเพลงของฟรายเดย์อัลบั้มแรกเมื่อหกเจ็ดปีก่อนมากกว่ายุคหลังนี่นะ มันให้บรรยากาศดี ดูมีชีวิตชีวากว่าอัลบั้มหลังที่ฟังเพลงไหนก็เจอแต่ความเหงา เศร้า อกหัก เพลงนี้ก็เหงา เพลงนั้นก็อกหัก โอยจะหม่นกันไปถึงไหนครับพี่.. กลับมาเข้าเรื่องแต่งเพลงก่อน อาทิตย์ที่แล้วเจอพี่ดี้ นิติพงษ์ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอ้เราก็ลังเลยึกยัก จะเข้าไปขอลายเซ็นดีไม่ดี คิดไปคิดมา กระดาษปากกาก็ไม่มี ครั้นจะขอพี่ดี้อนุเคราะห์ด้วยก็เกรงใจแก สุดท้ายพี่ดี้ไม่รอท่า เดินจากไปไหนไม่รู้หายวับเลย เป็นอันว่าลายเซ็นเฉลียงในลำดับที่ห้าจากแปดของเรา ต่อจากพี่จิก พี่เล็ก พี่จุ้ย พี่แต๋ง ก็เลยยังไม่ได้กัน.. รอโอกาสมานาน เก็บไปทีละคนๆ คาดว่าชีวิตนี้ไม่น่าจะเร็วเกินเก็บครบอีก 4 คน.. พี่ดี้เป็นคนที่แต่งเพลงได้เยอะและไวมาก เพลงมากมายในสังกัดแกรมมี่ก็เป็นฝีมือการเขียนเนื้อของเขา และมุมมองยังคงพยายามใส่ลูกเล่นเข้าไปในเนื้อเรื่อง แต่เพลงที่เราชอบมากที่สุดกลับเป็นเพลงแรกๆ ในชีวิตของเขา คือเพลงเข้าใจ ของวงเฉลียงเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนนั่นแหละ เป็นเพลงที่เนื้อหาเศร้าดี เศร้าแบบว่าไม่รู้เศร้าอะไร ไม่ใช่เพลงอกหักทั่วไปที่มาถึงก็พูดว่าเธอทิ้งฉันไป ฉันเศร้าใจจังหนอ.. แต่มันเศร้าในเนื้อหาอย่างบอกไม่ถูก ... {small}สองคนไม่เคยเข้าใจ คนให้อภัยไม่มี อยู่อย่างนี้แล้วดีอย่างไร มันดีอย่างไร ... คงมีเพียงแค่รักกัน แล้วรักนั้นมันมีสุขไหม คงเป็นเพียงเราเผลอไป ไม่ตั้งใจจะรักกันให้มันยั่งยืน.. ฝืนไปตรมใจเปล่า อยู่เดียวอาจเปลี่ยวเหงา สองเรายังเป็นเพื่อน แยกไปใช่จะร้าวกัน ยังผูกใจกันดั่งเหมือน เพื่อนจะรักดังเดิมได้ไหมนะเธอ ..{/small} ฟังทีไรซึ้งทุกที ทั้งที่เราก็ไม่เคยมีประสบการณ์แบบในเพลงเสียหน่อย เนื้อร้องเล่าเรื่องจนทำให้นึกถึงบรรยากาศแบบที่ว่า นิ่งๆ สองคนมองตากันเงียบๆ เหมือนถ้าพูดอะไรกันแล้วจะต้องร้องไห้ แล้วใจนึงอยากพ้นช่วงเวลาอึดอัดนี้ไป แต่อีกใจก็ไม่อยากผ่านเพราะรู้ว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายของสองคน.. เอ๊ะนี่เราตีความไปเกินเนื้อเพลงรึเปล่าหว่า.. ปวดหัวอยู่ตอนนี้ว่า แต่งเพลงยังไงให้มันถูกใจตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก คิดยากจังไม่ว่าจะทำนอง เนื้อร้อง.. คิดแล้วชอบไปคล้ายกับคนอื่นเรื่อย ก็พยายามสลัดทิ้ง อันไหนเหมือนนักก็ทิ้งเลย กว่าจะคิดเองได้อย่างพอใจตัวเองแล้วไม่เหมือนคนอื่นด้วยก็ต้องรอจังหวะตั้งนาน นักแต่งเพลงอาชีพที่เขาแต่งๆ กันแกรมมี่ อาร์เอส เคยลำบากใจขนาดนี้ไหมนะ รู้สึกว่าเพลงมันจะจับยากอ่ะนะว่าใครเหมือนใคร ไม่ใช่เพราะต่างคนต่างมีเอกลักษณ์หรอก แต่จะว่าก็ว่าเถอะ มันเล่นออกมาเหมือนกันทุกเพลงเลยต่างหาก เผลอๆ เปิดคาราโอเกะผิดเพลงยังร้องได้จบเนียน.. โอ๊ะ ยาวแล้ว.. คงต้องต่อคราวหน้า! us:=นวย.:am:. - 27/01/2004 10:07 ๏+๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-๏-