30/12/50 .. อัลบั้มโปรด 2550ตอบ: 3, อ่าน: 6792

2550

ศิลปิน : Yarinda & Friends อัลบั้ม : Try 2 Be Nice สังกัด : Smallroom (อัลบั้มข้ามปี ซื้อจากงานแฟตปีที่แล้ว)

สำหรับเวลาที่ต้องการนั่งฟังเพลงแบบมีสมาธิจริงๆ ต้องการฟังการบันทึกเสียงดีๆ
ปีนี้ผมจะฟังอัลบั้มนี้ครับ เป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของญารินดา (หัวไม่ชมพูแล้ว)
หลังจากหวนคืนวงการและลองออก EP ชุดละ 4 เพลง ขายเองกับมือ ไปแล้วสองชุด
ก็ได้ทำอัลบั้มเต็มส่งค่าย Smallroom ..แล้วปีก่อนผมก็ดันมองข้ามอัลบั้มนี้ไปซะงั้น
เพราะว่าเพลงมันฟังยากอ่ะ มันจะยังไม่ปิ๊งปั๊งจนถึงกับต้องกางเนื้อตามไปในรอบแรก
แต่พอได้ฟังหลายครั้ง ก็เริ่มรับรู้บรรยากาศเพลง และซาวด์ของอัลบั้มนี้ ทีละนิดๆ
แล้วก็มาพบว่า เฮ้ย..เจ๋งอ่ะ! แต่งเพลงก็ดี ดนตรีก็เล่นดีแถมยังบันทึกเสียงมาเนี้ยบ!

อัลบั้มนี้จึงได้เป็นชุดแรกในบรรดา 5 อัลบั้มโปรดประจำปี 2550 ด้วยประการฉะนี้
ส่วนจะดีจริงไม่จริง ต้องลองพิสูจน์ด้วยหูและใจตนเองเด้อ..
(ไม่มีเพลงแนะนำเป็นพิเศษครับ อยากให้ฟังทั้งอัลบั้มจะได้อารมณ์มากกว่า)

ศิลปิน : Saliva Bastards อัลบั้ม : Saliva Bastards สังกัด : Durian Records (อัลบั้มข้ามปี วางแผงในงานแฟตปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาซื้อเอาต้นปีนี้)

วงที่มีชื่อแปลได้ว่า "ปีศาจน้ำลาย" วงนี้ มีนักร้องนำคือ จีน มหาสมุทร
(พระเอกภาพยนตร์เรื่อง หมานคร ..ตัวจริงเป็นนักดนตรีโฟล์คซองตอนกลางคืน)
เพลงของวงจะต่างไปจากเพลงเดี่ยวแบบเนิบๆ เลื่อนลอยๆ ของเขาโดยสิ้นเชิง
คงเพราะว่ามีมือกีตาร์คือ เป๊ก มาร่วมแต่งเพลงในอีกครึ่งหนึ่งด้วย
ส่งผลให้อัลบั้มนี้มีเพลงช้า "2 min. love song" ระดับเทพ อยู่ 2 เพลงด้วยกัน
(เป็นเพลงภาษาอังกฤษ) คือเพลงที่ 6 "Clouds" และเพลงที่ 10 "On & on"

อัลบั้มนี้ออกไล่เลี่ยกับวง Sqweez Animal ที่เป็นเพื่อนฝูงเรียนที่อังกฤษมาด้วยกัน
แต่ผมไม่ชอบอัลบั้มของอีกวงอย่างแรงเลย เพราะมันคล้ายกันไปทั้งชุดจนน่าง่วง
..ที่จริงเพลงเร็วของ Saliva Bastards เองก็ฟังคล้ายๆ กันไปหมด บีตดิสโก้เดิมๆ
แถมฝีมือดนตรี และการบันทึกเสียง ยังด้อยกว่าอีกวงแบบคนละเรื่องกันเลยด้วย
แต่มันยังกลับฟังโอเควุ้ย! พูดภาษาวัยรุ่นต้องบอกว่า มันมีดีในความ "รั่ว" นี่แหละ
ฟังครั้งแรกอาจจะแปลกๆ หน่อย แต่พอคุ้นแล้วก็จะสนุก มีความป๊อปอยู่ในนั้นพอควร
อ้อ.. ฟังอยู่ดีๆ มีตะโกน "ไอ้สาดดด" ด้วย! (ไม่เกี่ยวกับเนื้อเพลงเลย เอาสะใจไว้ก่อน)

แต่ก็อย่างว่า ถ้าอัลบั้มนี้ไม่มีสองเพลงช้าระดับเทพ ผมคงจะเฉยๆ ฟังแล้วผ่านเลยไป
ขอชื่นชมคนที่เรียงลำดับเพลง ที่เอาสองเพลงนี้สอดแทรกเข้ามาในเวลาที่เหมาะสม
จนทำให้อัลบั้มนี้กลายร่างมาเป็นอัลบั้มโปรดประจำปีนี้ไปเลยครับ..
เรียกว่าแดนซ์กันมันส์ๆ พอเหนื่อยกำลังได้ที่ ก็คั่นด้วยเพลงช้าอะคูสติกชวนเฮเลยล่ะ
"Clouds" ทำให้นึกถึง "Across the Universe (Beatles)" ซึ่งเป็นเพลงโปรดของผม
ส่วน "On and on" นี่ก็ได้บรรยากาศเหงา ล่องลอย ใบไม้ร่วง ไม่หย่อนไปกว่ากัน

เพลงโปรโมท เพลงเร็ว "คืนวันศุกร์" บีตดิสโก้ป้าบๆๆ เนื้อร้องมันส์ดีเหมือนกัน
เพลงช้าปานกลาง "เพื่อนร่วมทาง" เพลงนี้ผมก็ชอบมากเป็นพิเศษนะครับ
โดยเฉพาะท่อนแรกนั้นลงตัวมาก ทั้งเนื้อ+เมโลดี้+เสียงร้อง+เบส+ขอบกลอง
ตอนนี้รู้สึกจะเริ่มโปรโมทเพลง "Clouds" แล้วล่ะ หวังว่าคนอื่นๆ จะชอบเหมือนผมนะ

อัลบั้มนี้มีโปรดิวเซอร์เป็นคนเดียวกับเจ้าของค่าย ชื่อว่าพี่ป๊อด โมเดิร์นด๊อก
เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์ และเป็นวงแรกของค่ายใหม่นี้เลย
นี่เป็นจุดขายที่ทำให้ผมซื้อมาลองฟัง แล้วก็ไม่ผิดหวัง.. จึงชวนให้ติดตามกันต่อไปว่า
ผลงานของค่ายนี้ในปีต่อๆ ไป จะมีอะไรแปลกใหม่ (และชวนโปรด) มาให้เราฟังอีก

ศิลปิน : Retrospect อัลบั้ม : Unleashed สังกัด : Genie Records

เรโทรสเปค เป็นวงดนตรีแนวอีโมร็อค แบบวัยรุ่นสมัยนี้นิยมนั่นแหละครับ
ซึ่งหมายความว่าเล่นหนักแม้แต่เพลงช้า กีตาร์ก็เล่นอยู่แบบเดียว จือดือดึ๊ด ง่ายดี
และกลองจะเล่นแบบหนึบๆ บางขณะก็เร่งเร้าแปลกๆ เช่น สองกระเดื่อง, จังหวะยก
และมีสำรอกบ้างนิดหน่อยเพราะถือเป็นข้อบังคับของเพลงแนวนี้ แต่ก็พอฟังได้

ผมสนใจวงนี้ตั้งแต่ได้ยินเพลง "ไม่มีเธอ" ในอัลบั้ม Genie Showroom (ปี 2547)
เป็นเพลงที่แต่งได้ดี เรียบเรียงดนตรีได้หนักแน่นแต่มีลูกเล่นน่าฟังดี ร้องก็ดี
แล้วในที่สุดวงนี้ก็เพิ่งได้ออกอัลบั้มเต็ม 10 เพลง เป็นครั้งแรกกับค่ายเดิม..

ไม่รู้ถ้าผมชอบอัลบั้มนี้คนจะหาว่าเสี่ยว หรือกลายเป็น "ชาวเรโทรเรี่ยน" รึเปล่า
แต่อัลบั้มนี้เขาทำมาได้ดีจริงๆ นะ.. ติดอยู่อย่างคือมันมีแต่มาแต่แผ่นกับชื่อเพลง
ไม่มีปก ไม่มีเครดิตคนแต่งเพลง ไม่รู้แม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามของสมาชิกในวง
(เรียกว่าตูรู้ชื่อวง ชื่ออัลบั้ม ชื่อเพลง ก็นับว่าบุญแล้ว) เป็นการขายของที่เห่ยโคตร!
..ซึ่งถ้า (อุตส่าห์) มองในแง่ดี ก็ถือเป็นการได้ตัดสินความชอบจากตัวเพลงล้วนๆ
ไม่เกี่ยวกับการปรุงแต่งอื่นๆ ไร้สิ่งใดชี้นำ ไม่ว่าจะอาร์ตเวิร์ค หรือชื่อผู้ร่วมงาน

จุดดีของเพลงวงนี้คือจะเน้นเมโลดี้สวยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเพลงช้าเพลงเร็ว
และถ้าฟังมาไม่ผิด (ก็มันไม่มีเครดิตมาให้อ่ะ) วงนี้เขาแต่งเพลงกันเองหมดเลย
ก็จะยิ่งน่าชื่นชมว่าเออดี เขียนเพลงได้ดีนะ แล้วก็มีแนวทางของวงชัดเจนดีด้วย
ถึงผมจะไม่ได้ชอบดนตรีแนวนี้เท่าไร แต่อัลบั้มนี้ได้การแต่งเพลงที่ดีมาช่วยไว้
(แม้ว่าบางคนจะบอกว่ามีเพลงช้าอกหักเยอะไปหน่อยก็ตาม ..ถือว่าพอทำเนาน่ะ)
จึงน่าสนับสนุนให้เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มโปรดประจำปีนี้ครับ..

ศิลปิน : Scrubb อัลบั้ม : Mood สังกัด : Blacksheep

อัลบั้มชุดที่ 3 ของวงสครับบ์ ซึ่งคราวนี้มีแค่ 5 เพลง แต่นับว่าจ๊าบมิใช่น้อย..
ทำนองแต่งเองยังฟังดีไม่มีเสื่อมคลาย แต่ปรับซาวด์ดนตรีให้เนี้ยบยิ่งขึ้นกว่าเก่า
จึงทำให้เป็นอัลบั้มที่ผมว่าสุขุม+เนียนสบายที่สุดของวง (อัลบั้มเก่าจะมีดีที่ความสด)
ด้านเนื้อร้องได้ผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน มาช่วยแต่งให้ ทำให้ฟังเข้าใจรู้เรื่องขึ้นเยอะเลย
ได้แก่ พี่กอล์ฟ ซูเปอร์เบเกอร์, พี่บอย ตรัย, และพี่วิภว์ อดีตแฮมเบอร์เกอร์

คงต้องชื่นชมพี่กอล์ฟเป็นพิเศษครับ เพราะอัลบั้มนี้ได้อานิสงส์จากเนื้อนี้ไปเต็มๆ
"เพราะฉันไม่เคยเจอะใคร ไม่ขวา ไม่ซ้าย ไม่สมบูรณ์ไป
ไม่มองแง่ร้ายหรือเอาแต่ใจ แต่มีอะไรไม่ธรรมดา
ฉันไม่เคยเจอะใคร ไม่เร็ว ไม่ช้า ไม่น้อยเกินไป
แต่มีอะไรที่ดีกว่าใคร ลงตัวกับใจ อยู่กันได้พอดี.."
เรียกว่าใครที่มีแฟน ฟังท่อนนี้ครั้งแรกไม่โดนใจก็แปลกแล้ว!

ตามมาด้วยเพลงช้าเนื้อหาสุดโรแมนติค จากพี่บอย ตรัย "เก็บไว้กับเธอ"
เขาบอกว่า ก่อนเราจะจากกันไกล ฉันจะไม่ร้องเพลงสุดท้ายนะ
จะขอเก็บไว้ ไม่ให้ฟัง ไม่ให้ร้องไห้ แล้วจะรอถึงวันที่ได้กลับมาร้องเพลงนี้ด้วยกัน

พี่วิภว์ก็แต่งเนื้อได้ไม่แพ้อีกสองท่าน กับเพลงปิดอัลบั้ม ที่มีชื่อเหมือนที่พักตากอากาศ
"อินจันทรี" (inchan tree) เพลงนี้นอกจากดนตรีฟุ้งฝัน เนื้อหามีความหมายลึกซึ้ง แล้ว
ยังโชว์ชั้นเชิงการเลือกใช้คำเป็นคู่ๆ ให้ลงกับวรรณยุกต์ที่ต้องการ ได้อย่างพอดีเป๊ะ
"จะอยู่หรือไป จะปล่อยหรือวาง จะเปลี่ยนหรือแปลง จะบอกหรือฟัง
จะผ่านหรือเลย จะหยุดหรือยัง ก็ไม่รู้..
(อีกท่อน) ..จะต่อหรือเติม ให้ต่างหรือตาม จะเหนื่อยหรือทน ต้องสั่งหรือทำ
จะหลอกหรือจริง ให้จดหรือจำ ก็ไม่รู้..
(และอีกท่อนนึง) ..จะหมดหรือมี ก็แบ่งและปัน จะขาดหรือเกิน ก็อยู่ด้วยกัน
ไม่เอ่ยซักคำ ก็ไม่สำคัญ เมื่อเรารู้.."

เอ๊ะนี่ตูพิมพ์เนื้อให้หมดทุกเพลงซะเลยดีมั้ยเนี่ยวันนี้.. แหม่เอาซะยาวเลย..
นี่มาแนะนำอัลบั้มหรือมาสอนภาษาฟระ!.. 5555

หมายเหตุ : ปีนี้พี่กอล์ฟยังได้โชว์ฝีมือแต่งทั้ง 10 เพลงในอัลบั้มใหม่ของวงตัวเองด้วย ซึ่งก็ประทับใจผมแทบทุกเพลง (แล้วยังฝากเนื้อไว้ในอัลบั้มข้างล่างนี้อีกหนึ่งด้วยแน่ะ..) โดยเฉพาะสำหรับทุกวันนี้ ที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจกับเรื่องราวดีๆ ในเพลงสักเท่าไรแล้ว ขอยกตัวอย่างไว้พอสังเขปสัก 3-4 เพลงก็ละกันครับ.. สาวน้อยมหัศจรรย์ "เหนือกว่า ดาวหางโคจรมารอบใหม่ หิมะลงกลางทะเลทราย ก็ยังคงดูคล้ายว่าธรรมดา สวยกว่า อัญมณีที่ล้ำค่า เทคโนโลยีที่เพิ่งมา ก็ไม่อาจทำให้ฉันต้องละสายตา.." จดหมายรัก "..ถึงถ้อยคำมันช่างดูเชย แต่เปิดเผยและแสนจริงใจ แล้วรุ่นเราวันนี้มีใคร ส่งจดหมายรักถึงกันหรือยัง บอกคำว่ารักให้กันอย่างใส่ใจ ด้วยซองจดหมายที่เราได้เลือกสรร บอกด้วยหมึกสีดีดีที่ให้กัน และเลือกกระดาษให้เข้ากัน.." กวี "หากบทกวีข้างในโลกนี้ต้องหมดไป หัวใจก็คงแตกสลาย ไม่มีดนตรีให้เราได้ร้องเพื่อผ่อนคลาย ฝันฉันก็คงจะมลาย.." โลกร้อน "หุ้นไหนกำลังปั่นป่วน พรรคไหนกำลังเรรวน ฉันว่าไม่ควรจะลืมปิดไฟ ซื้อรถรุ่นอะไรดี เห็นมีคำถามกันมากมาย ไม่มีใครคิดจะประหยัดใช้ ย่านไหนคนหน้าตาดี ร้านไหนให้เหล้ากินฟรี ดาราคนนี้เป็นแฟนกับใคร กำไรจะฟันยังไง แค่เดินเหยียบเท้ามีเรื่องได้ ไม่มีดอกไม้วาเลนไทน์ก็เสียใจเจียนตาย * ในขณะที่โลกร้อน หยุดไว้ก่อนจะได้ไหม หากลองคิดและลองใส่ใจ อะไรคือปัญหา ในขณะที่โลกร้อน หยุดไว้ก่อนจะได้ไหม แบ่งเวลาไตร่ตรองสักนิด พรุ่งนี้คงดีกว่า.." (นั่น! พิมพ์เนื้อยาวอีกละ.. พอๆๆๆ..)

ศิลปิน : The Richman Toy อัลบั้ม : แดนสวรรค์คอยอยู่ สังกัด : Smallroom

จากวงที่เคยออกซิงเกิ้ล 2 เพลง (สาวรำวง, ดาวเด่น) ในอัลบั้ม Genie Showroom 2
ตอนนี้วงนี้ก็ได้วางแผงอัลบั้มเต็ม 10 เพลง ชุดแรกแล้วครับ กับค่าย Smallroom
..แนวเพลงของวงนี้จะเรียกว่าร็อคอะไรดี มันช่างสุดเหวี่ยงและน่ามันเขี้ยวเหลือเกิน!
ฟังแล้วชวนให้นึกถึงบรรยากาศเมืองชนบท ท้องทุ่ง ซึ่งกำลังเห่อความเจริญที่เพิ่งเข้าถึง
เรียกว่า เด็กแนวจิ๊กโก๋กึ่งฮิปปี้ อินเดอะคันทรี่ร็อคแอนด์โรลส์ ก็แล้วกันครับ.. (หงิ่ว!)

ส่วนผสมเด็ดๆ และแปลกๆ หาไม่ได้จากวงอื่น ถูกคลุกเคล้ากันออกมาเป็นอัลบั้มนี้

1. เนื้อร้องภาษาย้อนยุค กึ่งลูกทุ่งลูกกรุงประมาณนั้น เนื้อหาก็ทั้งกึ่งเชยทั้งกึ่งทันสมัย
และเหมือนมีใจความเกี่ยวเนื่องกันในแต่ละเพลง ดูชื่อเพลงสิครับ..
ฟลอร์ทองหล่อ, ราชานักรัก, มนต์รักยาเสน่ห์, สาวน้อยคาราโอเกะ, ร็อคสตาร์
สะดุดรัก, สตรอเบอร์รี่เกิร์ล, แดนสวรรค์คอยอยู่, ทุ่งดอกไม้บาน, ม้าป่า
..ที่ต้องเอ่ยปากชมสุดๆ คือหาคำมาลงกับเมโลดี้ที่โจนทะยานได้อย่างเหมาะเหม็ง
ซึ่งอาจเป็นเพราะสามารถใช้คำที่เชยย้อนยุคขนาดไหนก็ได้ และฟุ่มเฟือยคำก็ได้
(ยกเว้นบางเพลงที่ตั้งใจเขียนเนื้อแบบให้มันเพี้ยนวรรณยุกต์ไปหมดตลอดเพลง)
คนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องการใช้ภาษา น่ามีอัลบั้มนี้ไว้ฟังเพื่อความเพลิดเพลินอย่างยิ่ง

ตัวอย่างเนื้อเพลง (ทุกเพลงที่ยกมานี้เป็นเพลงเร็วๆ ร็อคๆ นะครับ)
- แวว แวววาวนางในฝัน ผิวพรรณก็เลิศเลอ ทุกทีที่เธอนั้น มายักหลิ่ว คิ้วตา..
- หยาดน้ำตานอง เพียงเพราะใจน้องจาง หักหัวใจช้ำ คำที่เธอร้างลา..
- หลงรักความงาม สะกิดเพลินดวงตา แค่เพียงชั่วยามสะกดใจให้เพ้อ..
- แสงเรืองรองเรียกร้องความงามซ่อนอยู่ แสงเรืองรองเร่งเร้าใจไปสู่ ปลายทาง..
- เธอคือร็อคสตาร์ เปรียบดังแสงดาวค้างฟ้า เธอคือร็อคสตาร์ เปรียบดังแสงดาวข้างฝา!

2. ดนตรีแน่นปึ้ก แต่งมาติดหู และเรียบเรียงได้อย่างมีลูกเล่นตลอด ฟังบ่อยจึงไม่เบื่อ
..แถมมีการหยิบยืมชิ้นส่วน (เช่นท่อนกีตาร์) จากเพลงบีทเทิลส์ หรือเอลวิส มาแปะด้วย
เสียงร้องก็ออกไปทางสูงๆ และลีลาการร้องมีความยียวนนิดๆ ถือว่ากำลังดี
(บางเพลงก็โคตรนัว โคตรมึน จนฟังแทบไม่ออกว่าภาษาอะไร!)
ฟังบ่อยเข้าจะเริ่มอดร้องตามไม่ได้ ถึงจะมั่วๆ งงๆ ก็ตาม เพราะเมโลดี้มันมันส์ดี

3. พอเอาเนื้อร้อง+ทำนอง+เสียงร้อง+ดนตรี ที่ทุกอย่างย้อนยุคไปซะหมด มาผนวกกัน
กลับกลายเป็นความทันสมัย และโคตรมันส์ซะอย่างงั้น ..ตรงนี้ชอบมากเป็นการส่วนตัว

สรุปแล้วอัลบั้มนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ไม่ควรตัดสินเพลงดีไม่ดีจากรูปลักษณ์ภายนอก
ทั้งหน้าตา+การแต่งกายของวง ทั้งชื่อเพลง+เนื้อเพลง
เพราะสุดท้ายเราอาจจะแปลกใจ ที่พบว่าตัวเองหลงชอบสิ่งเหล่านี้ซะหมดเลยก็ได้!

ป.ล. พี่กอล์ฟ ซูเปอร์เบเกอร์ ได้โชว์ฝีมือแต่งเนื้อ 1 เพลงในอัลบั้มนี้ เจ๋งอีกแล้วอ่ะ
"เหมือนแม่ไม้มวยไทย โดนตรงที่กลางใจ คล้ายพายุลูกใหญ่ ตรงมาซัดชายฝั่ง"
แล้วก็ "เหมือนดอกไม้นานา บานรายล้อมกายา เมื่อตัวฉันได้มา เบอร์โทรของกานดา"

คือแบบว่า.. คิดแทนบุคลิกของทั้ง 2 วง แล้วเอามาใส่ในเนื้อได้อย่างเนียนเลย!
นี่ผมว่าอีกไม่นานพี่กอล์ฟคงจะโด่งดังในทางแต่งเนื้อ (คล้ายพี่บอย ตรัย) ซะแล้วล่ะ..
อาจจะแจ่มกว่าด้วย เพราะขยันคิดเนื้อหาแตกต่างหลากหลาย ไม่เคยเล่าเรื่องซ้ำเลย


------------------------------------------------------------------------

อันนี้ขอแถมอีกสักอัลบั้มแล้วกันครับ
ไม่ใช่เพลงไทย แต่ทำโดยศิลปินชาวไทยทั้งหมด ..ฟังแล้วชอบมากครับขอบอก!

ศิลปิน : Smallroom006 อัลบั้ม : Flipper's Players สังกัด : Smallroom

เป็นการทริบิวต์ให้วงป๊อปสไตล์ชิบูยาเกะ วงแรกของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า Flipper's Guitar
(ปัจจุบันหนึ่งในสองสมาชิกหลัก หันมาทำเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ในนาม Cornelius)
โดยอัลบั้มนี้ได้นำ 11 เพลงจากอัลบั้มแรกของวง คือ Three Cheers for Our Side
มาเรียบเรียง ร้องบรรเลงกันใหม่ ในสไตล์ใครสไตล์มัน.. ไม่ว่าจะร็อคหรือป๊อป
ฟังแล้วโอ้โห วงต้นแบบวงนี้เขาสุดยอดจริงๆ แฮะ แต่งเพลงได้ยังไงฟะเนี่ย ดี๊ดี
นี่ขนาดเพลงจากอัลบั้มแรกแค่อัลบั้มเดียว ทำไมมันถึงได้ไพเราะยกชุดขนาดนี้ได้..

รายชื่อวงในอัลบั้มนี้ได้แก่ ซินดี้ซุย, ออนออฟออน (สเลอ), ยูริส์โนมินี่, แทททูคัลเลอร์,
บอล จารุลักษณ์, เพนกวินวิลล่า (โปรดิวเซอร์ของอัลบั้มนี้), ฟิฟทีนซีนเนอรี่,
ซูเปอร์เบเกอร์, แกรมาโฟน ชิลเดร้น, เลมอนซุป, เดอะริชแมนทอย, และ โฟโน่
(โดยมีรีมิกซ์จาก mr.z สมเกียรติ ที่หายไปจากวงการซะนาน แถมมาให้อีกเพลงหนึ่ง)
ทุกวงเลือกเพลงได้เหมาะกับแนวดนตรีของวงตัวเองดีมากเลย ฟังแล้วแฮปปี้หลายๆ
ถ้าคุณชื่นชอบงานของวงเหล่านี้ล่ะก็ อัลบั้มนี้ซื้อได้เลยไม่ต้องรีรอครับ เดี๋ยวหายากนะ!

ป.ล. อัลบั้มนี้จะวางขายในญี่ปุ่น ฉลองครบรอบ 18 ปี ของวง Flipper's Guitar ด้วยล่ะ