หลังจากมีเหตุการณ์ให้ตกลงใจได้ว่า จะเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายรูปที่เจ๋งขึ้นกว่าเดิม
พร้อมทั้งบอกตัวเองให้เชื่อว่าถึงจะไม่ค่อยได้ถ่าย แต่ก็คงเก็บกล้องไว้ใช้ได้นานๆ
..กะซื้อตัวเดียวใช้ไปอีกสิบปีล่ะว่างั้น (เพราะมันไม่ใช่ถูกๆ เลย)
ก็เลยใช้เวลาว่างนอกเหนือเวลางานที่เร่งรัดอยู่ในตอนนี้ มานั่งอ่านข้อมูลจากเว็บต่างๆ
อยากจะรู้เรื่องกล้องดิจิตอลมากขึ้น และอยากรู้ว่าเขาต้องดูสเปคอะไรยังไงกันบ้าง
อ่านมาได้หลายวันก็เลยคิดว่า เรียบเรียงข้อมูลในหัวมาพิมพ์เก็บไว้บ้างคงดีแฮะ..
------------------------------------------------------------------------------
กล้องดิจิตอล (ที่ไม่ได้อยู่ในโทรศัพท์มือถือ) แบ่งได้ 2 กลุ่ม.. มีข้อดีข้อเสียต่างกัน
1. กล้อง compact (หรือระดับผู้บริโภคทั่วไป)
2. กล้อง SLR (หรือระดับโปรฯ) ย่อมาจาก Single lens reflect = "สะท้อนเลนส์เดี่ยว"
ป.ล. กล้องฟิล์มก็มี 2 แบบนี้เช่นกัน.. บางครั้งจึงเรียกกล้องดิจิตอล 2 แบบนี้ว่า
ดิจิตอลคอมแพค และ ดิจิตอล SLR (DSLR)
ลักษณะภายนอก+การพกพา
compact
- ตัวเล็กกระทัดรัด หยิบถ่ายได้ไว พกสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงก็ยังได้ (ทำประจำเลย)
- นิยมผลิตเป็นสีเงิน (ส่วนสีอื่นๆ เช่นสีดำ สีทอง สีชมพู ก็มีประปรายบางรุ่น)
- มีให้เลือกในท้องตลาดไม่หวาดไม่ไหว เผลอแป๊บเดียวก็ออกรุ่นใหม่กันเป็นพรวน
- ที่วางใจได้ก็มี Canon PowerShot, Canon IXUS, Sony Cyber-shot, Panasonic Lumix,
Nikon Coolpix, Fujifilm FinePix, Olympus, Casio, Samsung, Pentax, Ricoh, Kodak, Sanyo
SLR
- มักจะมีสีดำ (สีเงินก็มีพบบ้าง สีอื่นยิ่งไม่เคยเห็นเลย)
- ตัวกล้องจะใหญ่ และมีอุปกรณ์เพิ่มอีกหลายอย่าง จนต้องใส่กระเป๋าสะพาย
- มีเลนส์เป็นกระบอกๆ มาเสียบอีก 1 ดุ้น ยาว/สั้น ใหญ่/เล็ก ก็แล้วแต่กำลังซูม
- มีให้เลือกน้อย และนานมากกว่าจะออกใหม่ จึงมักได้ยินยี่ห้อและรุ่นยอดนิยมอยู่ไม่กี่รุ่น
อาทิ Canon EOS 350D-400D, Nikon D50-D80
สเปคเบื้องต้น+สนนราคา
compact
- ขนาดภาพสูงสุดที่ถ่ายได้ มีตั้งแต่ 3 ล้านจุด ขึ้นไปถึง 10 ล้านจุด (ในขณะนี้)
- เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้, เลนส์อันเล็ก ซูมได้ไม่มาก (ประมาณ 3x ถึง 6x), มีแฟลชจิ๋วในกล้อง
- ถูกพัฒนาเทคโนโลยีใส่ลงไปไม่หยุดยั้ง เช่นระบบกันมือสั่น, ระบบตรวจจับใบหน้า,
ระบบควบคุมความเข้มแฟลช, จอ LCD พับ/บิด ได้, บันทึกวีดิโอพร้อมเสียงได้พอขำๆ
- จ่ายทีเดียวจบ ราคาอยู่ที่ 5 พัน ถึง 2 หมื่น
SLR
- ขนาดภาพสูงสุดที่ถ่ายได้ มีตั้งแต่ 6 ล้านจุด ไปจนถึง 10 ล้านจุด (ในขณะนี้)
- เป็นกล้องที่เอาไว้ถ่ายรูปเท่านั้นจริงๆ ไม่มีลูกเล่นอื่นใดมาให้ เหมาะสำหรับใช้ฝึกฝน
- ตัวกล้องจะมาเปล่าๆ โบ๋ๆ ต้องซื้อเลนส์มาเสียบเอง (อันเดียวหรือหลายอันก็แล้วแต่งบ)
เช่น จะถ่ายมาโครก็ต้องซื้ออันนึง, จะซูมเยอะๆ ก็ต้องซื้ออีกอัน, จะถ่ายมุมกว้างก็อีกอัน
- รายจ่ายไม่จบสิ้นง่ายๆ เพราะมีค่าเลนส์ ค่าแฟลช ค่าฟิลเตอร์ ตามมาเป็นขบวน
- ราคาอยู่ที่ 2 หมื่นกว่า ไปจนถึงหลักแสน! (ถ้ารวมราคาอุปกรณ์ คงไปถึงหลายแสนได้)
การใช้งาน
compact
- มักจะเป็นระบบออโต้ ตามใจกล้องซะส่วนใหญ่ ถ้าแพงหน่อยก็พอสั่งแมนนวลได้บ้าง
(แต่จะปรับยาก เพราะปุ่มทุกอย่างถูกรวบอยู่ในเมนู ซึ่งต้องกดหลายขั้นจึงจะเข้าถึงได้)
- คุณภาพของภาพจะด้อยลงตามราคา เช่นสีสันจืด, จุดรบกวนเยอะ, โฟกัสพลาดได้ง่าย
- ถ้าจะถ่ายให้สวยทุกสถานการณ์ ต้องพึ่งทั้งฝีมือและจังหวะที่ดี เพราะกล้องมีขีดจำกัดมาก
- ดูภาพก่อนถ่าย ขณะถ่าย และหลังถ่าย ได้จากจอ LCD ด้านหลังกล้อง
- ถ้าเป็นรุ่นเล็กๆ ช่องมองภาพจะเป็นรูตรงๆ (คลาดเคลื่อนไปจากภาพที่ถ่ายจากเลนส์)
แต่คงไม่เป็นปัญหาเพราะผู้ใช้แทบทุกคนจะถ่ายโดยมองที่จอ LCD อยู่แล้ว
SLR
- มีทั้งออโต้และแมนนวลสมบูรณ์แบบ ปุ่มปรับค่าต่างๆ อยู่บนตัวกล้อง เพื่อให้ปรับสะดวก
- โฟกัสไวมาก ถ่ายและบันทึกได้ทันท่วงที ไม่หน่วงเวลา โอกาสได้ภาพดีมีมากกว่า
- ภาพที่ได้เนียนมาก สีสันอิ่มดี, แต่ทั้งนี้ความสวยจะขึ้นกับเลนส์ที่ซื้อมาใช้ด้วย
- บันทึกในรูปแบบ RAW ได้ เพื่อเอามาแต่งต่อในคอมฯ ให้สีและแสงตรงตามต้องการยิ่งขึ้น
- ดูภาพก่อนถ่ายและขณะถ่ายจากจอ LCD ไม่ได้, มีจอไว้เปิดดูภาพตอนถ่ายเสร็จเท่านั้น
- ช่องมองภาพ จะเป็นภาพที่ได้จากเลนส์โดยตรง ปรับโฟกัสไปยังไงก็จะเห็นได้เลย
(อันนี้จำเป็นมากๆ เพราะถ่ายโดยมองจากจอ LCD ไม่ได้..)
------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ก็จดๆ จ้องๆ เล็งกล้องสไตล์ SLR-Like อยู่.. เป็นกล้องสไตล์กลางๆ..
คือตัวมันเองเป็น compact แต่ขนาดใหญ่พอควร และทำหน้าตาเลียนแบบ SLR
มันจะมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นกว่า compact เล็กๆ ทั่วไป ปรับแมนนวลได้ดีกว่า
มีเลนส์ใหญ่ขึ้นทำให้ได้มุมมองภาพที่หลากหลายขึ้น (ภาพกว้าง/ภาพซูมไกล/ภาพชัดตื้น)
กล้องสไตล์นี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เรียกกันว่า โปรซูมเมอร์
(สงสัยจะมาจาก กึ่งโปรเฟสชันแนล กึ่งคอนซูมเมอร์.. คือเอาแน่ไม่ได้ซักทาง.. :P
จะเป็นระดับทั่วไปก็ไม่เท่ ครั้นจะเป็นโปร ฝีมือก็ยังไม่ถึง และงบในกระเป๋าก็ยิ่งห่างไกล)
เพราะจะทำให้ได้ภาพที่สมดั่งใจมากขึ้น เนียนขึ้น (เท่าที่ฝีมือแต่ละคนจะอำนวย)
ไปเที่ยวทะเลป่าเขา อยากจะยกถ่ายๆ (แบบไม่ต้องเล็งนาน) แต่ดันอยากได้ภาพดีกว่าเดิม
ก็ต้อง SLR-Like นี่แหละคร้าบ! ..ช่วยท่านได้
ด้วยราคาที่แพงกว่ารุ่นเล็กทั่วไป ผู้ใช้จะได้มีโอกาสสัมผัส "ตัวช่วย" ใหม่ๆ หลายอย่าง
ตรงจุดนี้ดีใจได้เลยว่า SLR แท้ๆ ไม่มีให้นะ (เพราะอันนั้นวัดกันที่ฝีมือคนถ่ายล้วนๆ)
.. แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว SLR-Like คงต้องยอมแพ้ SLR แท้ๆ ทุกประตู!
ถึงยังไงภาพที่ได้ออกมาก็ยังเป็นรองอยู่มาก.. สาเหตุหลักๆ เลยก็คือ
SLR-Like นี่มันเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้ ยังคงเป็นเลนส์ในตัวกล้อง แค่อันใหญ่ขึ้นเท่านั้น
เขาว่ากันว่า ไอ้เลนส์เดียวใช้งานครอบจักรวาล ทั้งกว้าง-ทั้งซูม ทำได้เท่านี้ก็เยี่ยมแล้ว
และยิ่งไปกว่านั้น การใช้ SLR-Like ยังจะยัดเยียดความรู้สึกมาให้อีก 2 อย่าง
(1) ต้องหิ้วกล้องที่ใหญ่ขึ้น หนักขึ้น (ใส่กระเป๋ากางเกงไม่ได้แล้ว)
มันทำให้การเที่ยวทะเลป่าเขา ยกถ่ายๆ ฉับๆ อย่างที่บอกไว้เนี่ย ไปได้ลำบากยิ่งขึ้น
คือจะโปรก็ไม่โปรไปเลย จะเล็กก็ไม่เล็กไปเลย ..เหมือนว่าทำไมไม่เอาให้แน่สักทาง
(2) ผู้ใช้กล้อง SLR-Like จำนวนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
เมื่อใช้ไปสักพักคุณจะรู้สึกว่า.. ทำไมไม่เพิ่มตังค์อีกนิดเดียวแล้วซื้อ SLR ไปเลยแต่แรก!
เนื่องจากราคาใกล้กันมากๆ และ SLR-Like มีระบบแมนนวลให้ได้ลอง จนติดอกติดใจ
ปัญหาทั้งสองข้อนี้สำหรับเราไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือต้องคิดหนักเลย
อยากจะบอกว่า แก้ปัญหาได้ด้วยเงินครับ!
ไม่ใช่รวยนะ.. แต่เพราะจนไง! ทำยังไงก็ไม่มีตังค์จะเล่น SLR อยู่แล้ว
(คือการจ่ายสองหมื่นกว่าซื้อ SLR ก็ไม่ใช่ว่าทำได้ทุกอย่างตามต้องการเลยทันที
แต่ยังต้องมีค่าอุปกรณ์ตามมาอีก อย่างน้อยๆ ก็คือเลนส์.. อันละหลายๆ พันบาทขึ้นไป!
ซึ่งถ้าคิดว่าจะไม่ซื้อเพิ่มเลย จะใช้แค่เลนส์ที่แถมมาตัวเดียว ก็ไม่รู้จะเอา SLR มาทำไม)
ฉะนั้นเราทำใจได้ไม่ยาก เอาแค่นี้ก็น่าจะพอใจ ตรงตามลักษณะการใช้งานที่สุดแล้ว
แถมยังรู้สึกดี (แบบแปลกๆ หน่อย) ว่า เราใช้กล้องรุ่นเจ๋งในระดับคอมแพคเลยนะ
แทนที่จะไปคว้ากล้องรุ่นเล็กสุด ถูกสุด ในระดับ SLR (โดยที่ไม่รู้ว่าทำอะไรได้แค่ไหน)
พิมพ์ซะยาวแล้ว.. เก็บไว้ตอนต่อไปค่อยมาว่ากันต่อ
คิดว่าจะจับ SLR-Like ตัวที่นิยมกันของแต่ละยี่ห้อมาเทียบสเปคกันจะๆ
พร้อมคำอธิบายว่า ไอ้ค่าต่างๆ ของกล้อง เช่น ISO, F, ขนาดเลนส์ (mm.), สปีดชัตเตอร์ ฯลฯ
แต่ละค่ามันจะส่งผลยังไงกับภาพที่ได้.. (อ้อ!.. เป็นข้อมูลที่ฟังเขามาอีกทีแหละ!)
..เผื่อจะได้เก็บเป็นความรู้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อกล้องได้
นวย