3/1/50 .. ไปวัดตอบ: 0, อ่าน: 2468

เมื่อวานนี้ไปไหว้พระที่วัดมา กับเพื่อนอีก 2 คน คือชงและโอเจ
ไปไหว้พระช่วงปีใหม่กันมาเป็นก๊วน 3 คนนี้ มาตั้งแต่ปี 47 และ 48 แล้ว
(ปี 49 ไม่ได้ไป เพราะติดภารกิจไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนแก๊งสบายใจเที่ยว
..ถึงแม้ว่าหลังๆ จะไม่ได้สบายใจเที่ยวแล้ว เที่ยวแบบลำบากใจก็ยังคงต้องไปอยู่ดี)

วันนี้มีรูปทั้งเก่าและใหม่มาโชว์กันพอเป็นกระษัยครับ! ชุดแรก .. สถานที่ = วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และสนามหลวง ถ่ายด้วยกล้องกระป๋องกระแป๋งขนาด 1.3M (ถ่ายเมื่อวันที่ 2 ม.ค.47) เป็นกล้องเว็บแคมที่ถอดพกพาได้ ไม่มีมอนิเตอร์ ไม่มีการปรับโฟกัสใดๆ ทั้งสิ้น เล็งจากรูแล้วกดลูกเดียว ภาพจะชัดไหม โฟกัสจะตรงใจหรือไม่ ต้องใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วย รูปที่ 1 : ยักษ์คู่ นี่คือโฉมหน้า (เมื่อ 3 ปีก่อน) ของเฮียปุ๊ (ชง) ครับ.. รูปที่ 2 : ยักษ์ย้อน ยักษ์ย้อน ย่อนเยื่อน อ่ะนะ?.. ไม่จ้าย! นั่นมันรักซ้อนซ่อนเงื่อน! รูปที่ 3 : ลงกลอน เอ้อ ถ่ายใกล้ก็ถ่ายได้ชัดนะ.. สงสัยวันนั้นทำบุญมาดี รูปที่ 4 : ยักษ์ใหญ่ (..ไย่ยักเย็ก) ใครอย่าดูถูกกล้องปัญญาอ่อนเชียวนะเฟ่ย ถ้าคนถ่ายปัญญาไม่อ่อนรูปก็ดูดีได้ รูปที่ 5 : ป้ายหน้า ช่วงนั้นชอบถ่ายป้ายต่างๆ มากเลย.. ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน รูปที่ 6 : ตากล้องกะนก เป็นหนึ่งในรูปที่ถูกใจตัวเองมากๆ ตลอดกาล.. แต่ต้องแต่งรูปเป็นแบบนี้ก่อน!

ทั้งที่เพื่อนก็กลุ่มเดิม สถานที่เดิม เวลาก็ช่วงเทศกาลปีใหม่เหมือนๆ เดิม..
แต่เมื่อวานนี้กลับมีความแปลกกว่าทุกครั้ง ตรงที่

1. เราเดินทางกันด้วยเรือและเดินเท้าตลอด
เริ่มจากท่าเรือสี่พระยา นั่งเรือด่วนไปท่ามหาราช โผล่ใกล้ๆ ธรรมศาสตร์
แล้วไหว้พระที่วัดพระแก้ว, โดยสารเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปวัดระฆัง
แล้วก็ข้ามกลับมาเดินไปวัดโพธิ์เป็นที่สุดท้าย..
(เห็นอยู่หลายกลุ่มที่จ๊ะเอ๋กันไปมาอยู่สองสามวัดนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มเรา)

2. ตูยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ตื่น โดนเพื่อนหลอกลากไปลากมา
ยาวจนนู่น ทุ่มสองทุ่มถึงได้กินมื้อแรก แถมยังลากตูเดินจากวัดโพธิ์ไปเยาวราชอีก
แต่ว่าก็ต้องยอมห้อยตามไปแต่โดยดี (..อะไรห้อย!)
ก็ยังสงสัยว่าตัวเองเอาแรงจากไหนไปเดินได้ทั้งวันโดยไม่กินอะไรเลยหว่า..

พักดูรูปกันต่อดีกว่า!.. ชุดที่สอง .. สถานที่ = วัดพระแก้ว ถ่ายด้วยกล้องตัวปัจจุบัน โอลิมปัสรุ่นเล็กสุด 3M (ถ่ายวันที่ 26 ม.ค.48, ส่วนช่วงปีใหม่ที่ไปกับชงและโอเจวันนั้นเราไม่ได้เอากล้องไป) กล้องตัวนี้ใช้งานมานาน 3 ปีแล้ว ถนัดมือมากๆ แต่ว่า ใช้จนปรุโปร่งแล้วเริ่มไม่ได้ดั่งใจ คือชักรู้สึกว่าขีดจำกัดของกล้องมันเริ่มขัดขวางการถ่ายแบบที่เราอยากได้ ซะแล้ว (หลักๆ เลยก็คือ เลนส์เล็ก ทำหน้าชัดหลังเบลอแทบไม่ได้, อีกอย่างคือ ตัวนี้เป็นออโต้ทุกอย่างเต็มสตีม.. มันเลยปรับค่าให้ไม่ค่อยตรงกับใจเรา) รูปที่ 1 : ยักษ์อีกแย้ว พยายามไปถ่ายมุมมองเดิม เผื่อรูปจะสวยขึ้น แต่ผลก็ เปล่าเลย.. รูปที่ 2 : ตุ๊กตาจีน กล้องตัวนี้ทำให้เรายิ่งชอบถ่ายรูปใกล้ๆ วัตถุ เพราะโฟกัสมันได้พอดี รูปที่ 3 : หลังคา รูปนี้เลือกมางั้นๆ.. เพราะวันนั้นถ่ายได้ไม่เยอะเท่าไหร่.. หมดแล้วด้วย..

3. เป็นครั้งแรกที่ชงเอากล้องไป
ด้วยความที่เพิ่งกลับจากไปขุดทองที่ซานฟราน (คล้ายๆ เซนต์ฟรังก์ รึเปล่า)
หิ้วกล้องโซนี่ H5 (กล้องแบบ slr-like รุ่นสุดจ๊าบ) กลับมาด้วย
กล้องตัวแรกก็เอาซะหรูเลย แต่ประสบการณ์การถ่ายแทบจะไม่มีซักนิด
แต่ดีแล้วล่ะ เราว่าถ้าซื้อตัวเล็กเดี๋ยวก็อยากซื้อใหม่อยู่ดี

เพราะเราลองใช้กล้องชงแล้ว โอ้โห ของมันดีว่ะ
ไม่ต้องพูดถึง manual ก็ได้ เอาแค่ออโต้ (โหมด P) มันก็สุดจะฉลาดแล้ว
ถ่ายเทียบกับกล้อง compact ของเราที่มุมเดียวกันเวลาเดียวกัน สู้ไม่ได้เลย
กล้องมันปรับสีปรับแสงให้สวยงามได้ตามต้องการ ราวกับอ่านใจเราออกกระนั้นเจียว..
ลองได้แป๊บเดียวน้ำลายหก กิเลสจับเลยตู ไปไหว้พระทำบุญกลับเกิดกิเลสซะงั้น
จบงานนี้เลยฟันธงว่า จะหาโอกาสซื้อ Fuji S6500FD ของดีราคาประหยัด ให้จงได้..

ประจวบกับโอเจก็สนใจการถ่ายอยู่พอควร เมื่อวานเลยกลายเป็นทริปท่านนักกล้องกันไป
..ความรู้แค่หางอึ่งของตูกลับกลายเป็นรู้เยอะสุดแล้ว ก็ต้องอธิบายเพื่อนๆ กันไปพอสังเขป
อาทิ ถ่ายออโต้โฟกัสจะล๊อคโฟกัสได้อย่างไร, การจัดวางในภาพควรหามุมมองของตัวเอง,
การหาสถานที่ให้มีแสงกำลังดี ไม่จ้าเกินไปจนภาพแข็ง และไม่มืดเกินไปจนภาพสั่น,
แล้วเมื่อไรถึงต้องเปิดแฟลช และทำไมปกติไม่ควรเปิดแฟลช, ถ่ายกลางคืนทำยังไง ฯลฯ
ฟังดูเหมือนเก่งแมะครับ.. 5555.. ความจริงตูยังไม่เคยแตะกล้องรุ่นใหญ่เลยซักครั้ง..

เดี๋ยวว่าจะขอให้ชงส่งรูปที่เราถ่ายด้วยกล้องสุดเจ๋งของชงมาให้ซักหน่อย..

รูปชุดสุดท้ายแล้วครับ ถ่ายเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ.. ชุดที่สาม .. สถานที่ = วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง และวัดโพธิ์ ถ่ายเมื่อวานนี้ (2 ม.ค. 50) ด้วยกล้องตัวปัจจุบันตัวเดิม สังเกตดีๆ จะเห็นว่า ฝีมือตูในช่วง 4 ปีนี่ไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นเล้ย!.. รูปที่ 1 : ปุ๊ปัจจุบัน แอนด์ฮิสกล้อง อุตส่าห์ทำหัวสีทองก่อนบินกลับมา เพราะกลัวคนไม่เชื่อว่าเป็นเด็กนอก.. รูปที่ 2 : เหลียวหลัง ตุ๊กตาจีนอีกแล้ว!.. คือว่า ถ่ายเป็นอยู่แบบเดียวใช่มั้ยเนี่ย รูปที่ 3 : เงา รูปยังไม่ค่อยงาม แต่ก็พอใจแล้วกับความฉับไวของตัวเองในสถานการณ์นั้น (ทหารเดินไวมากครับ ยกกล้องแทบไม่ทัน..) รูปที่ 4 : เมื่อยคอวุ้ย ปุ๊กำลังเล็งหามุมถ่าย "พระนอน" ที่วัดโพธิ์.. (ซึ่งก็หามุมยากจริงๆ แหละ) รูปที่ 5 : พระนอน ๑ นี่เป็นมุมที่ผมเลือกถ่ายมา รูปที่ 6 : พระนอน ๒ นี่ก็ อีกแบบนึงครับ.. รูปที่ 7 : ป้ายยังงามมม.. ชอบป้ายนี้อ่ะ เพราะมีพวงมาลัยใครวางอยู่พอดี ก็กำลังสวยเลย.. (ป้ายบอกว่า ห้ามจับเท้า (พระพุทธบาท) ขององค์พระ) รูปที่ 8 : ยักษ์คู่ (เวอร์ชั่น 3 ปีให้หลัง) ชงถามว่า ถ้านวยจะถ่ายคนกับยักษ์ (ซึ่งสูงต่างกันเยอะ) จะถ่ายยังไง ผมก็เลยย่อตัวลง แล้วกดรูปนี้ให้ดู.. ยกกล้องกดเลย ไม่ได้เล็งอะไร แต่ก็ไม่น่าเกลียด.. (แล้วทีภาพที่ตั้งใจเล็งนานๆ นะ ดันออกมาแย่หมด!) รูปที่ 9 : งวดนี้ ดูดีๆ ต้นไม้ด้านหลังชูเป็น 5 ด้วย.. งั้นก็ฟันธง 45 มาแน่ครับท่าน!

จบแล้วเด้อ..