0437
ว่ากันเรื่องเพลง (2) : เปิดกรุมั่งด…
แสดงทั้งหมด

ไม่ขนซื้อหนังสือตอบ: 0, อ่าน: 1254

เมื่อวานไปงานหนังสือมาอีกแล้วครับท่าน
(งานหนังสือนี่แปลกดีนะ มีทุกปี ปีละสองครั้ง
แต่ว่าน้อยคนจะสนใจจำว่าชื่องานมันไม่เหมือนกัน
.. คือชื่องานอะไรก็ไม่รู้ ครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามีขายหนังสือ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ชื่องานเหมือนกัน)

เดี๋ยวนี้ไปงานสุดสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน
จากสามย่านไปถึงศูนย์ประชุมฯ 20 บาท
สะดวกกว่ารถไฟฟ้าแน่นอนเพราะรถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

แต่ทำไมเมื่อวานเป็นวันเสาร์แท้ๆ ไม่ยักกะมีคนแน่นอย่างที่คิด
จำนวนผู้คนบางตาอย่างผิดปกติ ไม่มีบูธไหนให้ต้องเบียดเลย
ไม่ว่าจะเป็นมติชน เวิร์คพ้อยท์ อะเดย์ พิมพ์บูรพา โอเพ่น 113
หรืออื่นๆ..

สันนิษฐานว่าผู้คนไปรุมบูธนายอินทร์ ซึ่งมีคุณสรยุทธ์มาอีกแล้วมั้ง
แบบว่ามางานนี้ทีไรจ๊ะเอ๋กับเขาทุกที..
หรือไม่ก็อาจเพราะแต่ละ สนพ. แทบไม่มีหนังสือใหม่ๆ ออกมาเลย

ได้หนังสือมาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือ 8 เล่ม
แถมในจำนวนนี้ยังมีการ์ตูน และนิตยสารเก่าด้วย อย่างละเล่ม..
ถ้าไม่นับ 2 เล่มออกใหม่ของวินทร์ เลียววาริณ
(ซึ่งออกเป็นกิจวัตรทุกๆ มีนาและตุลา และก็จำต้องซื้อเป็นกิจวัตรเช่นกัน)
อีก 4 เล่มที่เหลือล้วนเป็นเล่มที่คัดแล้วว่าดีมีคุณค่าน่าอ่าน

1. รวมคอลัมน์เสนอเรื่องราวด้วยภาพสีน้ำ อ่านแล้วเย็นใจเป็นที่สุด
จากนิตยสารอะเดย์.. "Going Places" (ต้องการ)
ปกติผมชอบซื้อรวมเล่มผลงานสีน้ำอยู่แล้ว.. ในเงื่อนไขที่ราคาสู้ไหวนะ
ทั้งงานของพี่หมอ ทิววัฒน์, และคุณอะไรหว่าที่นามสกุลลิมาภรณ์วณิชย์
แต่งานของ "ต้องการ" ที่ลงในอะเดย์นั้นมันมากกว่าความงามในสีน้ำ
มันมีเรื่องราวที่.. อย่างที่บอก.. อ่านแล้วเย็นใจเป็นที่สุด
ภาพอิริยาบถของผู้หญิงคนหนึ่ง กับต้นไม้ใบหญ้า กับชายหาด
กับเตียงนอน กับโปสการ์ด และอะไรๆ อีกมากมาย
ที่ไม่ว่าจะหยิบสิ่งไหนมาก็วาดให้เป็นเรื่องราวแสนเย็นใจได้ทุกครั้งไป
แค่อ่านได้ตอนเดียวก็รู้สึกเหมือนลมในภาพพัดมาปะทะใบหน้าให้สดชื่นได้จริงๆ

2. รวมคอลัมน์เล่าชีวิตคอลัมนิสต์อาชีพ ที่มีงานเดือนละกว่า 20 ชิ้น!
จากเนชั่นสุดสัปดาห์.. "The Ballad of the Columnist" (วิรัตน์ โตอารีย์มิตร)
(คอลัมนิสต์ดนตรี และเจ้าของนามปากกา ปลาอ้วน, ญามิลา)
เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ในฐานะที่เล่าเรื่องราวของการเป็นคอลัมนิสต์
ได้อย่างหมดเปลือก ใครที่อยากเป็นนักเขียนไม่ควรจะพลาดเลยล่ะ

3. รวมคอลัมน์ของนักสัมภาษณ์หน้าไม่ใหม่แล้ว แต่ฟอร์มยังแจ่มอยู่..
"เศษทรายในกระเป๋า" (วรพจน์ พันธุ์พงศ์)
เรื่องของเขาเราอ่านแล้วเพลินดี และเหมือนได้ "สาร" อะไรบางอย่างอยู่บ่อยๆ
เป็นสารที่ทำให้ร่ายกายรู้สึกอยากลุกออกไปใช้ชีวิตอิสระ
ไปมองเรื่องราวสองข้างทาง ด้วยสายตาคู่ที่ไม่สลักสำคัญอะไร ของมนุษย์ธรรมดาๆ
หรือไม่ก็ปักหลักแหล่งตามชายทะเล หรือเมืองชนบทเล็กๆ
เพื่อพูดคุยกับผู้คนที่ไม่เด่นดัง ทว่าชัดเจนในชีวิตมากกว่าคนเมืองบางคนเสียอีก
.. แต่อ่านไปแล้วก็ต้องเตือนสติตัวเองไปพลาง ว่าแค่นี้ชีวิตยังอิสระไม่พออีกหรือ..
ผมว่างานเขียนของเขาต้องทำให้หลายคนในเมือง ซึ่งมีอะไรต่อมิอะไรรัดตัวรอบด้าน
ต้องอ่านแล้วเกิดอารมณ์อิจฉาในความอิสระขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่มากก็น้อยทุกรายไป
ถึงกระนั้น ใครได้อ่านแล้วคงจะถอนตัวเลิกติดตามงานของเขายากส์..เหลือเกิน

4. รวมเรื่องสั้นนักสืบแอร์คูล ปัวโรต์ เขียนโดยอกาธา คริสตี้
เป็นฉบับแปลชุดแรกสุดของไทย แต่ยังไม่เคยได้รับการรวมเล่มมาก่อน
พระราชนิพนธ์แปลในรัชกาลที่ 6 ลงในหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิธ (ปี 2466-67)
"ประติภาณแห่งมองสิเออร์ปัวโรต์" (แปลโดยทรงใช้พระนามแฝง รามจิตติ)
เล่มนี้นับว่ามีคุณค่ากับผมมาก ในฐานะที่..
- เป็นงานนักสืบที่ผมชอบอ่านมาตั้งแต่เล็ก แม้ว่าช่วงหลังนี้จะห่างหายไปบ้าง
- เป็นงานเขียนเกือบแรกสุดของอกาธา คริสตี้ ก่อนจะโด่งดัง
ซึ่งน่าแปลกมากที่ยังไม่เคยมีใครรวมเล่มชุดนี้มาก่อนในเมืองไทย..
- เป็นผลงานแปล ของรัชกาลที่ 6 ตั้งแต่สมัยที่ต้นฉบับภาษาอังกฤษออกใหม่ๆ
(นั่นคืออกาธา คริสตี้ยังไม่ดัง..) ผมชอบงานเก่าๆ คลาสสิคแบบนี้อยู่แล้วด้วย
... ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เลยปลื้มใจเป็นพิเศษที่ สนพ.รหัสคดี ได้จัดพิมพ์ขึ้น

ไม่รู้ว่าเพราะแก่แล้วหรืออย่างไร
หนังสือที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องรีบหยิบรีบจ่ายทันที กลับไม่อยากซื้อซะงั้น
คงเพราะวันก่อนจัดกองหนังสือใหม่แล้วรู้สึกว่าบางเล่มอ่านรอบเดียวเลิก
มันไม่คุ้มซักเท่าไหร่.. ก็เลยระมัดระวังในการเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น
ต้องเป็นผลงานที่คิดว่าคุ้มค่า อ่านแล้วจะเปลี่ยน (บางความคิดของ) ชีวิตได้
... ก็ปานนั้น

ยกตัวอย่างเช่น งานรวมนักเขียนสุดมีชื่อเสียงนับสิบคนในเล่มเดียว,
งานรวมเรื่องของศิษย์'ถาปัด จุฬาฯ, งานอ่านเอาฮาอย่างเดียวก็แล้วกัน ฯลฯ
สมัยก่อนต้องซื้อโดยไม่คิดเลย แต่เมื่อวานผมกลับไม่ซื้อ..

จะว่าไปก็มีแต่ของคุณวินทร์นี่แหละ ที่รู้สึกว่ายังตัดใจไม่ขาดซักที
ไม่ใช่ว่าจะชอบทุกเล่มหรอกนะ พูดว่าเล่มที่ชอบมีน้อยมากจะโอเคกว่าซะด้วยซ้ำ
แต่มันไงๆ ไม่รู้ ซื้อทุกเล่มที่ออกใหม่มาเผื่อว่าจะชอบ งั้นมั้ง
ไม่ก็คงเป็นนิสัยที่ชอบซื้ออะไรที่เป็นเซตๆ แบบไม่ให้ขาดแหว่งไปบางชิ้น..

เลยยังแก้นิสัย "เลือกซื้อหนังสือที่ชื่อนักเขียน" ไม่ได้ซักกะที!
นวย 02/04/2006 11:22 
สามารถใส่ html tag โดยใช้เครื่องหมาย { } แทน < >      
ความเห็น : 
จาก : : รหัส
(อีเมล/เว็บไซต์) : อัพโหลดรูป/ไฟล์
ถ้าไม่มีรหัสประจำตัว กรุณาใส่ "เลขหนึ่งสี่ตัว" ด้วยครับ