อ่านข้อความของน้องชอ แล้วพิมพ์ตอบคอมเมนต์
พิมพ์ไปพิมพ์มาชักยาวแฮะ.. เลยเอามาแปะที่นี่ดีกว่า
.. ไปงานสัปดาห์หนังสือมา วันอาทิตย์ วันสุดท้าย
คนแน่นยังกะหนอน โดยเฉพาะบูธอะเดย์ที่มีโน้ต อุดม
มายืนให้หนอนชอนไชและถ่ายรูปกันไม่รู้เบื่อ
เบียดเสียดขนาดนี้ ถ้าเราเป็นผู้หญิงคงท้องไปสองทีแล้ว..
- ได้ "ที่อยู่ของหัวใจ" (วรพจน์) มาเหมือนกัน แต่ทำไมตั้ง 128 บาทหว่า..
(ช่วยไขปริศนาหน่อยดิครับ ว่า open diary และเศษทรายในกระเป๋า พิมพ์กัสำนักไหน เพราะถามที่บูธไหนก็ให้ไปบูธอื่นยันเลย ไม่ก็บอกว่าหมดอ่ะ ท่าจะขายดีมากๆ อ่ะ)
- มีหนังสือของเจี๊ยบ วรรธนาอยู่เล่มนึงที่ออกเมื่อปีก่อนพร้อมพี่ดี้ แต่ไม่ค่อยประทับใจ ปีนี้เลยบอกตัวเองว่า "เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก" น่าจะใช้การแทน "เพลงแบบประภาส" ได้..
(โชคชะตานำพาให้ตอนเด็กๆ เราตัดสินใจซื้อเล่มนี้มา ของ สนพ.ณ บ้านวรรณกรรม แม้ราคาปกแข็งแสนจะแพง ก็เพราะเห็นข้างในมีเพลงของเฉลียงนั่นแหละ แล้วก็เลยทำให้ไอ้เด็กชอบเฉลียงคนนึงรู้ว่า คนนี้เป็นคนแต่งเพลงเฉลียงแทบทุกเพลงรึนี่! จากนั้นมาความบ้าเฉลียงก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปไปเป็นบ้าพี่จิก แทน..)
บูธเวิร์คพ้อยท์ ได้ตังค์เราไปชัวร์ๆ แล้ว จาก "คุยกับประภาส ลำดับที่ 7 : เท่าดวงอาทิตย์" รู้สึกว่าชื่อหนังสือเล่มนี้จะยิ่งใหญ่กว่าทุกๆ เล่มนะ แล้วมีคนตั้งข้อสังเกตให้ฟังว่า พี่จิกเป็นดารานายแบบอ๊ะป่าวเนี่ย ดูจากรูปบนหน้าปกอ่ะนะ.. :]
(แทรกคำทำนายส่วนตัวซักนิด.. หลังจากความยิ่งใหญ่ของ ณ บ้านวรรณกรรม สามสี ฯลฯ ถูกส่งต่อมาให้เครืออมรินทร์ในยุคหนึ่ง และตกทอดมาถึงมติชนในยุคล่าสุด 3-4 ปีมานี้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากช่วงนี้ มติชนคงจะต้องส่งต่อความยิ่งใหญ่ไปให้เวิร์คพ้อยต์ในอีกไม่เกิน 2 ปีนี้ล่ะ ด้วยวัตถุดิบที่เวิร์คพ้อยต์มีเราว่าน่ากลัวมาก..)
- โอ้ก้อด คุณวินทร์ไม่น่าทำกับเราแบบนี้เลย
เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าเขาต้องออกหนังสือต้อนรับงานสัปดาห์หนังสือทุกครั้งอยู่แล้วเป็นปกติ แต่ปีนี้ดีใจหนัก เพราะ "เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว" เป็นหนึ่งในสี่เล่มโปรดของเรา (ประกอบด้วย อาเพศกำสรวล สมุดปกดำฯ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน และเดือนช่วงฯ ก็คือ 4 เล่มแรกของเขานั่นแหละ แต่ละเล่มอ่านหลายรอบ ทั้งที่น้อยนักจะหยิบมาอ่านซ้ำ ก็ไม่รู้ที่เพียรซื้อหนังสือมาในชีวิตนี้มันคุ้มไหม)
ที่ว่าไม่น่าทำแบบนี้เลยก็เพราะ ปก "จรูญจรัสฯ" ซึ่งเป็นเล่มต่อของ "เดือนช่วงฯ" นั้นน่ะปกถือว่าโคตรของความสวย แต่ว่าเขาดันเปลี่ยนปก "เดือนช่วงฯ" ให้มาเข้าชุดกัน แบบวางต่อกันได้พอดีด้วย.. แฮ่มๆๆๆ ไม่เห็นใจแฟนยุคแรกมั่งเลย คิดถึงเงินในกระเป๋าแล้วต้องระงับกิเลสกันน่าดู ข่มใจให้ซื้อเล่มใหม่มาอย่างเดียว..
(และตัดสินใจไม่ขอลายเซ็นเขาแล้ว หลังจากที่แปลกใจอยู่หลายครั้งว่า ทำไมปีไหนมาวันไหนทีไรต้องได้เจอเขาแจกลายเซ็นอยู่ร่ำไป คราวนี้เจออีกเลยพอจับได้แล้วว่า เขามาทุกวัน ปะโธ่.. ปีนี้ไม่ให้เซ็นเพราะเริ่มคิดได้ว่า จะมีลายเซ็นทุกเล่มไปทำไมเนี่ย ไม่ตื่นเต้นเลย..)
- การที่ บินหลา ได้ซีไรต์ปีนี้นับว่าจ๊าบใช้ได้
เพราะมีอานิสงส์ให้หนังสือเล่มเก่าๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้พิมพ์ซ้ำ กลับมาผลาดอยู่บนแผงได้ และเราก็ได้ตามซื้อเล่มที่ยังไม่มี (ที่จริงก็มีอยู่แค่ 3-4 เล่มเองล่ะ ชุดที่เป็นลายกรอบไม้กระดานดำ) ในราคาถูก ลดถึง 20% นับว่าใจป้ำที่สุดในงานแล้ว แต่ว่าต้องทำใจอย่างสุดซึ้ง เพราะหน้าปกทุกเล่มล้วนถูกพิมพ์ตราวงกลมสีชมพูแปร๋นๆ โป้งเข้าไปว่า ผลงานนักเขียนซีไรต์ ทำลายบรรยากาศหน้าปกมากๆ เลย..
แล้วนี่คนที่เข้าไปรุมซื้อยกชุดจะรู้มั้ยว่า เล่มอื่นมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจักรยานนะ ไม่คล้ายเล่มที่ได้รางวัลเลยนะ เดี๋ยวหอบหลับบ้านแล้วจะไม่ได้อ่านเอา.. เออ แต่ว่ามากก็ไม่ได้ เพราะเรื่อง "เจ้าหงิญ" เราก็เพิ่งมารู้หลังจากได้ซีไรต์ปีนี้ ว่ามันเป็นหนังสือนิทาน.. (ทีแรกเห็นชื่อก็นึกว่าเป็นเรื่องปั่นจักรยานไปเขมรซะอีก ก็ลงท้ายด้วย ญ.หญิง อะไรหงิญๆ นี่ฝ่า :)
- "มากกว่านั้น" พร้อมลายเซ็นของวงศ์ทนง (ผู้ซึ่งบอกเราว่า เราหน้าเหมือนคนญี่ปุ่น และถูกเราขอให้วาดการ์ตูนหน้าตัวเองกำกับให้ด้วย หลังจากแอบเห็นว่าคนอื่นเขามีกัน เขาบอก จะวาดให้แต่ผู้หญิงนะนี่.. เอ้าเป็นงั้นไป) ทำให้เราได้รู้ว่าเขาเป็นคนเขียน "Bear Wishฯ" ในอะเดย์รึนี่.. ก็เลยไปสอยแบร์วิชมาจากบูธอะเดย์อีกเล่ม เล็งไว้นานแล้วจนเปลี่ยนปกก็แล้วเพิ่งได้โอกาสเป็นเจ้าของ ปรากฏพี่แกแอบไปเซ็นไว้ที่บูธอะเดย์ด้วย แล้วดันเซ็นเหมือนที่เซ็นใน "มากกว่านั้น" ด้วยนะ คือ .. Less is More .. กะขายหนังสือเล่มใหม่เน้นๆ เลยนะนี่ สรุปเราก็ได้หนังสือที่มีลายเซ็นซ้ำกันมา 2 เล่มโดยมีเล่มนึงไม่ได้ขอ ..มาเอง
- อีกลายเซ็นที่ได้ มาจากคุณ S.S. ผู้เขียนการ์ตูนเรื่อง Joe (ปลาหมึกนักสืบอ่ะ) แห่ง tomorrow comix (tmcx) ญาติๆ กับ บี.บอยด์คาแรกเตอร์ และเบเกอรี่มิวสิคเก่า.. (การต้องใส่คำว่า เก่า ลงไปนี่แสลงใจแฟนๆ เบเกอรี่ไม่น้อย) นี่ถ้าไม่มีไอ้เด็กที่ซื้อหนังสือรวมภาพวาดของเขา แล้วแกะให้เซ็น เราก็คงไม่รู้นะนี่ว่าตาคนนี้คือคนวาดเรื่องนี้.. ว่าแล้วก็เลยจัดการซื้อรวมเล่มเล่มล่าสุดที่เพิ่งออกแล้วขอลายเซ็นมาซะ เป็นลายเซ็นที่ภูมิใจมาก เพราะไม่ฟลุ้คจริงคงจะไม่ได้มา.. 5555..
- everybodyeverything รวมการ์ตูนชุดล่าสุดของพี่ตั้ม วิศุทธิ์ เจ้าของ hesheit (ที่เดาไม่ถูกว่าตอนนี้มีแฟนๆ มากน้อยขนาดไหนแล้ว) ไม่ได้อยู่ที่บูธ tmcx อย่างเคย แต่ไปโผล่ที่โอเพ่น และอัลเตอร์ฯไรเตอร์ (สนพ.ไต้ฝุ่น เจ้าเดียวกันกับเล่มล่าสุดของวรพจน์) ก็เลยเสร็จเขาไปอีกเล่ม เล่มนี้เคยอ่านแล้วกว่าครึ่งแน่ะ เลยเป็นเล่มที่อ่านจบไวสุดในกองที่ขนซื้อมา..
- ได้มาเพราะฟลุ้คอีกเช่นกัน "ฝากไว้ในอ้อมใจ" ของท่านโอ๊ต เคยเห็นแว้บๆ ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ .. ก็มาตามหาในงานตั้งแต่คราวก่อน เพิ่งมารู้ว่าจะไปมีขายในงานนี้ได้ไงในเมื่อเขาลงทุนพิมพ์เอง ไร้สำนักพิมพ์.. นี่งานนี้ถ้าโน้ต อุดม ไม่มา ก็คงจะไม่มีขายในบูธอะเดย์
หรอก นับว่าดวงดีอีกแล้ว แต่ทว่า.. ท่านโอ๊ต นี่ไม่ใช่ โอ๊ทส์ เหรอ.. เวรกรรม! แต่เอาเหอะ อ่านแล้วก็เพลินๆ ดีนะ ไม่ได้อ่านงานแนวนี้มานานมากๆ แล้ว (ก็แทบไม่มีใครเขียนแล้วอ่ะ หลังจากเฮียโน้ตแกหยุดเขียนไป สงสัยว่าจะไปอยู่ในหมู่หนังสือทำมือซะมากกว่า)..
- มีอยู่บูธนึงลืมเข้าไปดู คือเครืออิมเมจ เลยเดาว่าหนังสือเล่มหลังๆ ของเพลงดาบฯ น่าจะอยู่ในบูธนี้ เราเลยอด ไม่ได้กลับมาเลยซักกะเล่ม..
ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้!
นวย
ข้อสังเกตที่แว่บเข้ามาในหัว
นี่คือชื่อของนักเขียนที่เราติดตามผลงานทุกเล่ม
ซื้อโดยที่ยังไม่ต้องอ่านล่ะว่าอย่างนั้น
หรือว่าปีนี้เป็นปีของนักเขียนชื่อ ว.แหวน!
- วินทร์ เลียววาริณ (10 กว่าปีแล้ว, หลังๆ ชักเบื่อเหมือนกันนะ)
- วิศุทธิ์ พรนิมิตร (มายฮีโร่กันเลยทีเดียว)
- วรพจน์ พันธุ์พงศ์ (หลังจากได้อ่าน เสียงในความทรงจำ แล้วก็ปวรณาตัวว่าจะหางานของคนนี้มาอ่านอีกเยอะๆ อ่านแล้วมันได้อะไรๆ ดี ยิ่งอ่านหลายเล่มก็ยิ่งชอบ เป็นนักเขียนใหม่ๆ คนเดียวที่เราติดตาม)
- วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ (ไม่ชอบอ่าน a day แต่เห็นว่าชื่อ ว.แหวน เลยเอามารวมซะหน่อย ไหนๆ ก็มีงานเขียนเขาครบ 4 เล่มโดยไม่ได้ตั้งใจ)
- วุฒิชาติ ชุ่มสนิท (เจ้าของนามปากกา : บินหลา สันกาลาคีรี นั่นแหละครับท่านผู้ชม)
ป.ล. ยังมีอีกหลายคน แต่ไม่ได้ชื่อ ว.แหวน เลยไม่ได้พูดถึงซะงั้น..
อาทิ พี่ จ.(ป.ภ.ช.), พี่ จ. (ศ.บ.ล.), ค.ส.น., ฯลฯ
ย่อทำไมฟระ.. :]
นวย
>>> ได้ "ที่อยู่ของหัวใจ" (วรพจน์) มาเหมือนกัน แต่ทำไมตั้ง 128 บาทหว่า..
ซื้อที่ open อ่ะค่ะ เอ..หรือจำราคาผิดหว่า...
>>> ช่วยไขปริศนาหน่อยดิครับ ว่า open diary และเศษทรายในกระเป๋า พิมพ์กับสำนักไหน เพราะถามที่บูธไหนก็ให้ไปบูธอื่นยันเลย ไม่ก็บอกว่าหมดอ่ะ ท่าจะขายดีมากๆ อ่ะ
แป่ว....เพิ่งขนกลับบ้านนอกไปสดๆร้อนๆเลย
ถ้าจำไม่ผิด open diary น่าจะพิมพ์กับไต้ฝุ่นนะคะ อาทิตย์ที่แล้วไป se-ed ตรงมาบุญครองชั้น 7 ยังเห็นอยู่นะคะ - ศูนย์หนังสือก็น่าจะยังเหลือมั้งคะ
เศษทรายในกระเป๋า น่าจะอยู่กับพิมพ์บูรพา ...อืมม์ ใช่ค่ะ ต้องพิมพ์บูรพา เพราะออกมาเมื่องานหนังสือเดือนตุลา ตอนนั้นคุณหนึ่งย้ายไปพิมพ์บูรพาพอดี
>>>"เพลงเขียนคน ดนตรีเขียนโลก"
ฮือ.... ตอนเด็กๆเดินเปิดๆ คิดๆอยู่หลายรอบ แล้วก็ตัดสินใจไม่ซื้อดีกว่า แพงจัง ตอนนั้นยังไม่รู้จักเฉลียงด้วย(ยังเป็น step ที่รู้จัก ไม่รักแต่คิดถึง แค่เพลงเดียว) เสียดาย เศร้าใจ ฮือๆ...
พี่บางคนในบูธมติชนบอกว่า ยกให้ workpoint ไปทำต่อเองแล้ว มติชนทำไม่ไหว...อ้าว !
Shauฯ