Wed, 12 Jan 2005
สวัสดีครับ พี่นวย คือผมเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง
บังเอิญว่าคนรู้จักเขาอยากให้ไปสอนพิเศษให้ลูกเขาแบบตัวต่อตัว
ซึ่งผมไม่เคยสอนที่ไหนมาก่อนเลย
อยากจะถามพี่นะครับว่า สอนตัวต่อตัวเนี่ยพี่สอนยังไงครับ
เวลาทำโจทย์มีชีทให้เด็กทำเอง แล้วเราคอยดู
หรือเราทำให้ดูในกระดาษ แล้วให้กระดาษใบนั้นหรือยังไงครับ
ในกรณีที่ไม่มีกระดานให้ทำนะครับ รบกวนพี่นวยช่วยตอบหน่อยนะครับ
ช่วยบอกวิธีการสอนของพี่หน่อย ผมจะได้สอนน้องเขาถูก ขอบคุณครับ
Thu, 13 Jan 2005
สวัสดีครับ :]
เวลาสอนตัวต่อตัว จะเขียนชีทแจกให้ทีละบทๆ ครับ
ในชีทมีสรุปเนื้อหาแบบย่อๆ แล้วก็มีโจทย์
เริ่มต้นจะอธิบายให้น้องที่เรียนฟังเนื้อหาก่อน
แล้วก็ยกตัวอย่างโจทย์ประกอบน่ะครับ (ทำให้ดูในกระดาษ)
จากนั้นหาโจทย์ข้อที่คล้ายๆ กันให้ลองทำ (ทดในกระดาษ) เอง
โดยคอยช่วยเป็นไกด์ให้น่ะครับ คือดูว่าน้องติดขัดตรงไหน
จะค่อยๆ ใบ้ให้เรื่อยๆ จนนึกออก จบจบข้อได้ด้วยดี
แต่ถ้าเห็นท่าทางน้องที่เรียนงุนงงเกินเหตุ
ก็คงต้องอธิบายทั้งหมดซ้ำอีกรอบแบบละเอียดๆ กว่าเดิม
ทำโจทย์ให้ดูอีกข้อประกอบกับอธิบายช้าๆ ทุกขั้นตอน
แล้วพอเข้าใจแล้วก็ให้น้องทำเอง..
จากนั้นถ้าพอเข้าใจ เคลียร์โจทย์ได้บ้างแล้ว
ก็จะค่อยๆ ให้ทำโจทย์ที่ยากขึ้นทีละนิดๆๆ โดยไม่ได้ทำให้ดูนะครับ
ให้น้องที่เรียนลองทำเอง โดยใบ้ให้เรื่อยๆๆ เมื่อเห็นว่าทำต่อไม่ถูก
(แม้ว่าบางข้อการใบ้จะเหมือนการเฉลยให้ดู ก็ไม่เป็นไร)
แต่จะเน้นให้น้องได้ลองคิดด้วยตัวเองก่อน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มาที่ไปของเนื้อหาน่ะครับ
แล้วพอจบไปหัวข้อนึง ก็อาจจะพูดสรุปอีกทีว่าที่ผ่านมาเกี่ยวกับอะไร
(คล้ายจะนำสู่หัวข้อถัดไป ประมาณว่าพูดเข้าเพลง.. 5555)
หรือว่าสอนครั้งต่อไปก็จะทวนซ้ำให้ ว่าครั้งที่แล้วเราเรียนอะไรกันบ้าง
อธิบายคร่าวๆ ใหม่ ซักสิบนาที..
สรุปแล้วการสอนของพี่นวยจะเน้นอธิบายเนื้อหาให้ชัดเจน
แล้วก็โชว์โจทย์นิดหน่อยเองครับ เน้นให้หัดทำเองโดยเป็นไกด์มากกว่า
(แต่ถ้าเกิดเป็นกลุ่มเอ็นทรานซ์ก็จะไม่ใช่แบบนี้นะครับ ก็จะไวกว่านี้
คือเน้นเนื้อหาน้อย โจทย์เยอะ และมีโจทย์การบ้านให้ทุกครั้งด้วย..)
น้องที่เรียนแต่ละคนก็มีปัญหาต่างๆ กันไป
อย่างบางคนอะไรก็ไม่เข้าใจ ไม่กล้าทำโจทย์ บางคนขี้เกียจ ฯลฯ
ก็ต้องพยายามปรับวิธีการสอนให้เข้ากันกับคนเรียนด้วยครับ
(แล้วค่อยๆ ลาก ให้คนเรียนปรับวิธีคิดมาให้เป็นระเบียบ เข้ากับเราด้วย)
พอได้สอนจริงแล้วมีปัญหาตรงไหน ก็เขียนมาคุยกันใหม่นะครับ
Thu, 13 Jan 2005
ขอบคุณครับที่ตอบกลับ อืม...ลองไปสอนมาแล้วครับ
ทำชีทไม่ทัน เลยเอาชีทของน้องเขามาสอนก่อน
แล้วชีทของพี่เป็นลักษณะแบบไหนเหรอครับ
เวลาทำโจทย์ไม่ได้ทำในชีทเหรอครับ
หรือว่า ให้น้องเขียนในสมุดของเขาเอง มีเศษกระดาษคอยทดเลข
(ขอโทษด้วยนะครับอาจจะถามอะไรจุกจิกไปหน่อย
คือผมอยากสอนน้องเขาให้ดีที่สุด
มีประสิทธิภาพให้สมกับที่เขาไว้ใจเรานะครับ..)
ขอบคุณมากครับพี่นวย
Fri, 14 Jan 2005
สวัสดีอีกครั้งครับ :]
ชีทพี่นวย (สมัยก่อน) เป็นลายมือเขียน ก็มีเนื้อหาย่อๆ และโจทย์
จะเน้นโจทย์เยอะหน่อยอ่ะครับ แล้วก็มีตั้งแต่ง่ายสุดไปถึงยากมากๆ
เขียนเผื่อไว้น่ะครับ สอนน้องคนไหนเห็นว่าไปได้ดีก็ให้ทำไปจนถึงข้อยาก
แต่คนไหนดูท่าจะเข้าใจยากหน่อยก็ให้ทำเฉพาะข้อพื้นฐานที่จำเป็น..
ในชีทไม่ได้มีที่ว่างไว้ให้ทดเลยครับ เป็นชีทที่เขียนเรียงกันแน่นเลย
(เหมือน Math E-Book นี่ล่ะครับ แต่ใน Math E-Book จะมีเนื้อหาเยอะกว่า)
จะให้น้องส่วนใหญ่ทดในเศษกระดาษ A4 ที่ใช้แล้วด้านนึง (ไม่ได้ใช้สมุด)
โดยพยายามให้เขียนเหมือนแสดงวิธีทำคร่าวๆ น่ะครับ ให้พออ่านเข้าใจ
น้องบางคนก็ทำไวทำเร็ว บางคนก็ขี้เกียจ รอฟังเฉลยอย่างเดียว
และบางคนก็ทดแต่ตัวเลข สั้นมากจนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง อันนี้ต้องค่อยๆ ปรับ
พอทดเสร็จหมดแล้ว น้องบางคนก็เอากลับไปเก็บไว้ดู
(ทั้งของตัวเองและของที่พี่นวยเขียน) แต่ส่วนมากทิ้งครับ
ซึ่งเราก็ว่า ทิ้งไปไม่เป็นไร เน้นให้เข้าใจเลยเดี๋ยวนั้น ทำใหม่ก็ทำได้
ข้อไหนที่ยากหน่อยหรือมีเทคนิค ก็ให้จดย่อๆ ลงไปในชีท
เผื่อเอามาทำใหม่คราวหน้าจะได้นึกออกครับ..
ลองถามๆ จากคนอื่นที่สอนตัวต่อตัวเหมือนกัน ก็ดีนะครับ
เผื่อจะมีวิธีการต่างๆ กันไปบ้าง :]
ป.ล. แล้วน้อง **** เรียนอยู่ที่ไหนอ่ะครับ ?
Fri, 14 Jan 2005
ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยตอบครับ ตอบกลับเร็วจัง
แล้วผมจะลองใช้วิธีของพี่นวยไปสอนน้องเขา
วันเสาร์ อาทิตย์นี่แหละครับ
ผมเรียนลาดกระบัง ปี3 ครับ
แล้วพี่นวยเรียนจบจากที่ไหนครับ
ทำงานประจำด้วยหรือเปล่า หรือเป็นติวเตอร์อย่างเดียวครับ
Sat, 15 Jan 2005
พี่นวยจบวิศวะจุฬาฯ ภาคไฟฟ้า (ปี 2546) ครับ.. (ยังไม่แก่ :)
ตอนนี้เพิ่งเปิดร้านสอนพิเศษที่สามย่าน ใกล้ๆ ร้าน "กินดื่ม"
ไม่ได้ทำงานประจำครับ กำลังหาจังหวะเปิดร้านขาย CD อ่ะครับ
สอนพิเศษนี่ทำไปพลางๆ เพราะว่าได้สอนเล่นๆ มาตั้งแต่ปี 1
ประมาณอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง พอเรียนจบก็เลยติดพัน เลิกไม่ได้
เหนื่อยนะสอนกลุ่มเล็ก แต่ไม่ชอบงานออฟฟิศก็เลยต้องทำต่อครับ..
(มีน้องๆ ม.ปลาย ก็แนะนำมาเรียนบ้างเน้อ..)
ป.ล. ถ้าสอนไปสักพักแล้วได้ผลยังไงก็อย่าลืมบอกมั่งนะครับ
Mon, 17 Jan 2005
สวัสดีครับพี่นวย! พี่บอกว่าเพิ่งจบแสดงว่า อายุไม่เท่าไหร่
ต่างกับผมไม่กี่ปีใช่ไหมครับ อืม...ดีจังนะครับ
ผมก็ไม่อยากทำงานออฟฟิส เหมือนกัน
ไม่อยากไปเป็นลูกจ้างใคร พี่สอนพิเศษรายได้ดีไหมครับ
ผมก็สนๆเป็นติวเตอร์เหมือนกัน พี่นวยใช้ทุนสูงไหมครับ
เปิดสถาบันได้เนียแสดงว่าพี่เก่งมากเลยนะครับเนี่ย...
ปล. ไปสอนมาแล้ว มึนดีครับ
แต่เด็กหัวอ่อนมากๆเลย ม6 แล้ว
ยังไม่แม่นเรื่องการแก้สมการง่ายๆเลย
คูณไขว้ยังไม่ค่อยได้เลย
พี่นวยมีวิธีสอนพวกหัวอ่อนปนขี้เกียจอย่างไงบ้างครับ...
Thu, 20 Jan 2005
ครับ.. สวัสดีครับ :]
ไม่เชิงเป็นสถาบันหรอกครับ เรียกว่าร้านสอนพิเศษดีกว่า
เพราะว่าบรรยากาศไม่ใกล้เคียงที่สอนพิเศษเลยครับ..
ดูยังไงก็เป็นห้องนั่งเล่นชัดๆ.. 5555 (เป็นความตั้งใจให้แตกต่าง)
เน้นสอนกลุ่มเล็ก 2-3 คน เต็มที่ก็ 5-6 คนต่อกลุ่ม
ที่เปิดที่สอนนี่ไม่ได้กะจะสร้างชื่อเสียงอะไรในอาชีพนี้หรอกครับ
แต่ว่าเห็นเป็นงานที่พอทำได้ดีกว่าอย่างอื่น
และก็ไม่อยากไปตระเวนตามร้านอาหารในสยามหรือในจุฬาฯ แล้ว..
พอเปิดร้านสอนพิเศษแล้วก็มีรายได้มากขึ้นหน่อย
ก็พอจะสูสีกับเงินเดือนออฟฟิศขั้นเริ่มต้นแล้วล่ะครับ
คือประมาณเดือนละหมื่นกว่าถึงสองหมื่นกว่าบาท
(ไม่คงที่ครับ งานี้รายได้ไม่แน่ไม่นอน.. ถ้าเด็กโดดก็อดตังค์..)
พี่นวยก็ลงทุนหารกันกับเพื่อนอีกสองคน ลงทุนเปิดร้านที่สามย่าน
เป็นห้องแค่ห้องเดียวชั้นเดียว หมดไปแสนกว่าบาทแน่ะครับ..
มากกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลย แต่อีกแป๊บเดียวก็คงคืนทุนแล้ว
... มาถึงเรื่องสอนนะครับ ...
ถ้าสอนเพื่อสอบที่ ร.ร. จะสบายใจกว่า เพราะมีเวลาเยอะ
ก็ค่อยๆ เรียนไป ฝึกไป ขออย่าเพิ่งท้อใจซะก่อนเดี๋ยวก็ดีเอง..
แต่ถ้าจะสอนรวมทุกบทเพื่อไปใช้เอ็นท์นี่ ท่าจะลำบากมากๆ
ถ้าพี่นวยต้องสอน (เอ็นท์) ก็จะคุยกัน ให้คนเรียนรู้ตัวเองก่อน
ว่ามีความมุ่งมั่นจะเอ็นท์ติดคณะที่ต้องการมากแค่ไหน
คุยกันหนุกๆ น่ะครับ แต่ให้น้องที่เรียนมีความฮึดอยากสู้
แล้วปัญหาเรื่องเบสิคไม่ดีเนี่ยก็ต้องให้น้องเขาไปจัดการรื้อฟื้นเอง
เพราะว่าคงไม่มีเวลาสอนพื้นฐานให้ใหม่แน่ๆ
นอกเสียจากว่า เวลาทำโจทย์ข้อไหนมาเจอปัญหาก็ค่อยแนะๆ..
เรียนไปสองสามครั้งถ้ายังเห็นท่าไม่ดี
แบบว่าฉุดยังไงก็ไม่ขึ้น คนสอนก็คงต้องขอถอนตัวล่ะครับ..
อันนี้พี่นวยยังไม่เคยเจอกับตัว แต่ว่าเพื่อนที่สอนเลขด้วยกันเคยเจอ
แล้วเขาก็ใช้วิธีคุยกับคนเรียนให้เข้าใจว่าตัวเองไปไม่ไหวจริงๆ
ก็แนะนำให้มองทางอื่นไว้ คือไม่ต้องเอ็นท์เลขจะรุ่งกว่า..
(แต่ว่าถ้าไม่ย่ำแย่ขนาดนั้น ก็ค่อยๆ เรียนกันไปนะครับ
ไม่ต้องรีบให้จบทันก็ได้ เอาให้เข้าใจไปทีละบทๆ เท่าที่มีเวลาดีกว่า)
Fri, 21 Jan 2005
สวัสดีครับ พี่นวย! นึกว่าพี่จะไม่ตอบซะแล้ว!
ผมเอาเรื่องพี่ไปบอกกับเพื่อนๆ ว่าพี่เพิ่งจบแล้วมาเปิดติวเตอร์เอง
เพื่อนผมมันสนใจ จะชวนผมเปิดติวเตอร์บ้างนะครับ
ถ้าไม่รบกวนพี่เกินไปผมอยากจะถามพี่อีกสักหน่อย
เพื่อเอามาเป็นข้อมูลหน่อยนะครับ
(ผมก็ไม่อยากเป็นลูกจ้างใครเหมือนกัน
อยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นของเราเองนะครับ)
..พี่สอนทุกวันหรือเปล่าครับ
..ร้านที่พี่นวยเปิด เซ้งหรือเช่าครับ แพงไหมครับ
..พี่บริหารกันอย่างไร เช่น รายได้จากการเปิดสอนจะแบ่งกันยังไง
มีน้องมาเรียนกับใคร คนนั้นก็ได้หรือเปล่า หรือหาร3
..แล้วเพื่อนพี่ที่เหลือ ทำงานประจำหรือเปล่าครับ
..ถามเป็นชุดเลย พี่นวยคงไม่ว่านะครับ
ปล. ผมรอเมลพี่ตั้งนานเลยมีเรื่องถามเยอะนะครับ.....
แล้วที่พี่บอกว่าจะเปิดร้านขาย cd หาได้หรือยังครับ
Sat, 22 Jan 2005
สวัสดีครับ :]
ร้านเปิดทุกวันแต่ไม่ได้มีสอนตลอดเวลาครับ ผลัดกันมาเฝ้าตามเวร..
เรื่องรายได้นี่ใครสอนคนั้นก็ได้ไป ไม่ได้หารสามครับ
แต่ว่าจะถูกหักเปอร์เซ็นต์เก็บไว้สำหรับจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ..
คือใช้หลักใครสอนเยอะก็ต้องจ่ายเยอะ เพราะเปลืองสถานที่มากกว่า
...โดยถ้าเดือนไหนเงินส่วนกลางเหลือ ก็จะหารสามกลับมาเป็นกำไรครับ
(ในทางกลับกัน ถ้าเดือนไหนไม่พอ ก็ต้องหารกันจ่ายส่วนที่ยังขาดไป)
เพื่อนพี่นวยอีกสองคนทำงานประจำครับ แต่เป็นงานที่ค่อนข้างอิสระ
คือมีเวลาว่างมากหน่อย (ถ้าทำงานประจำเต็มเวลาคงมาสอนไม่ไหว..)
คราวนี้ถามเยอะจัดเลย ก็เล่าเท่าที่เล่าได้ละกันนะครับ
ละเอียดกว่านี้คงไม่ดีเพราะเกรงใจเพื่อนอีกสองคนครับ..
พี่นวย :]
kanuay@thai.com
นวย