ตั้งใจจะเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์มือถือเสียที
แต่ว่าการเลือกนี่ช่างวุ่นวาย และมีเรื่องให้คิดหนักทีเดียว
ไม่รู้คนอื่นจะคิดมากขนาดผมหรือเปล่า
คิดมาเกือบเดือนแล้ว ตอนนี้ใกล้คิดตกแล้วครับ :]
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังเอาสนุกๆ..
เรื่องที่ต้องคิดมี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ
1. จะใช้ของเจ้าไหน และใช้แพคเกจไหน
2. จะใช้โทรศัพท์ยี่ห้อใด รุ่นใด
เรื่องหลังนั้นไว้ค่อยคิดตอนจะซื้อก็ได้ ไม่น่าเครียด
เพราะผมก็ไม่ต้องการฟังก์ชั่นอะไรมากมาย
ไม่ถึงขนาดต้องถ่ายรูปได้ ฟัง mp3 ได้ หรือดูวีดิโอ mpeg-4 ได้
แบบนั้นซื้อกล้องถ่ายรูปดิจิตอล หรือซื้อซีดีวอล์คแมน น่าจะคุ้มกว่า
แต่ก็ไม่ถึงขนาดว่าเอาแบบใช้โทรได้อย่างเดียว
ไหนๆ ก็ซื้อแล้วเอาให้พอโอเค เทคโนโลยีเขาไปถึงไหนก็ตามๆ บ้าง
เพราะตอนนี้เราเป็นเจ้าของอุปกรณ์ดีๆ ได้ในราคาไม่แพงแล้ว
ทีนี้ผมก็มาเริ่มคิดถึงปัญหาข้อแรกอย่างที่บอก
... ใช้เจ้าไหนดี ??
มีอยู่ 4 ตัวเลือก.. เอไอเอส (GSM Advance), ดีแทค (DTAC),
ทีเอ-ออเร้นจ์ (Orange), และเจ้าใหม่ ฮัทช์ (Hutch)
ซึ่งการเลือกเจ้าไหนก็ต้องดูที่ 2 อย่างประกอบกัน ใช่ไหมครับ
ทั้งเรื่องสัญญาณดีไม่ดี และเรื่องค่าบริการถูกแพงขนาดไหน
คิดยากมากเพราะแต่ละเจ้ามีข้อดีข้อเสียต่างๆ กันไป
เรียกว่าสมน้ำสมเนื้อพอจะฟาดฟัน หารจำนวนลูกค้ากันได้พอดีเลย..
ผมแบ่งสี่เจ้านี้ออกเป็นสองกลุ่มในใจ
คือ เอไอเอส ดีแทค ออเร้นจ์ อยู่กลุ่มหนึ่ง เป็นพวกระบบ Cellular (GSM)
แล้วก็ฮัทช์ อยู่โดดเดี่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเป็นระบบใหม่ CDMA 2000
จะว่าไปฮัทช์ก็น่าใช้ ตามทฤษฎีสื่อสารที่ร่ำเรียนมาบอกว่า
ถ้าระบบเขาวางสำเร็จเมื่อไหร่ คุณภาพสัญญาณจะดีกว่าระบบของสามเจ้าแรก
นี่พูดในแง่ error นะครับ คือรับส่งข้อมูลมัลติมีเดีย (ภาพเสียงเคลื่อนไหว) เป็นหลัก
แต่ข้อเสียของฮัทช์อย่างหนึ่งคือ เป็นระบบที่ไร้เพื่อน
แม้ไม่มีคู่แข่งเลย แต่ก็ทำให้ไร้เพื่อนด้วย ..นั่นคือถ้าฮัทช์เจ๊งไปเมื่อไหร่
โทรศัพท์ระบบ CDMA ราคาแพงนั้น ก็จะกลายสภาพเป็นเกมกดทันที
ใช้เล่นเกมและดูเวลาได้สองอย่าง.. อ้อ ใช้ทับกระดาษก็ดี รูปทรงใกล้เคียง :]
แต่ไม่สามารถจะเอาไปเปลี่ยนใช้กับระบบ Cellular สามเจ้าแรกได้
ผมมองๆ ฮัทช์อยู่พักหนึ่งตอนที่เขาเริ่มลดราคาเครื่อง (ต้นเดือนนี้เอง)
ลดครึ่งราคา จากหมื่นสี่ เหลือเจ็ดพันบาทเอง นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
บังเอิญวันนั้นเดินผ่านหน้าโรงหนังลิโด้ ถึงได้ทราบเรื่อง
และก็เห็นคนรุมกันซื้อ ราวกับแจกฟรี..
ดูแล้วไม่น่ามีสักกี่คนที่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์รับส่งเมล์ หรือดูเว็บ
สงสัยแค่อยากได้เครื่องหรูหราทันสมัยในราคาถูก จอสีซะด้วย ว้าว..
.. แต่แล้วผมก็ต้องเลิกมองฮัทช์ เพราะแพคเกจ 780 บาทต่อเดือนนั้น หมด..
แพคเกจราคาถูกที่สุดของฮัทช์ 780 บาท นับว่าสูงนะครับ
แต่ถ้าหารกับเวลาที่เขาให้ใช้ได้แล้วนั้นนับว่าถูกกว่าเจ้าอื่นๆ โทรยังไงก็ไม่หมด
(โทรได้ 250 นาที แถมโทรเข้าฮัทช์ด้วยกันได้อีก 250 นาที, SMS ฟรีเยอะจัด)
พอ 1 สัปดาห์ผ่านไป เหลือแต่แพคเกจ 1080 บาท ผมคงไม่มีเงินให้ขนาดนั้น..
ตอนนี้ผมเหลือตัวเลือก 3 เจ้า ซึ่งมีข้อดีที่ใช้เครื่องโทรศัพท์ร่วมกันได้
และเจ้าถัดมาที่ผมตัดทิ้งก็เป็นออเร้นจ์ แม้ออเร้นจ์จะมีข้อดีที่คิดเวลาเป็นวินาที
เพราะน้องชายผมใช้อยู่ และบอกว่าสัญญาณของเจ้านี้น้อยพอๆ กับใช้ PCT
และด้วยประสบการณ์ที่ผมฝึกงานที่ TA มา ก็พอจะรู้ว่าสัญญาณไม่น่าจะดี..
คือรู้สึกว่าออเร้นจ์ไม่มีช่างดูแลประจำพื้นที่.. ได้แต่ใช้ช่างของโทรศัพท์บ้าน :]
ปัญหานี้เจ้าอื่นอีก 2 เจ้าไม่น่าจะเป็น เพราะทำมือถืออย่างเดียว..
สองเจ้าสุดท้ายที่ต้องตัดสินใจคือ เลือกระหว่างเอไอเอส กับดีแทค
ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสองเจ้านี้เลยในช่วงแรกๆ
จากการถามๆ ผู้อยู่ในวงการ ก็สรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า
เรื่องค่าโทรต่อนาทีนั้น คิดซะว่าเท่ากันก็ได้
... เอไอเอส สัญญาณดีมากที่สุด เพราะอยู่มานาน พัฒนามาจนเสร็จหมดแล้ว
แต่ราคารวมต่อเดือนจะแพงกว่า เพราะคิดเวลาที่ใช้โทร เป็นหน่วยนาที
... ส่วนดีแทคนั้น ราคารวมถูกกว่า เพราะคิดเวลาเป็นวินาที (แต่คิดขั้นต่ำ 30 วิ)
และสัญญาณก็ต้องด้อยกว่าเอไอเอสอยู่บ้าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด..
โอเค ฟังดังนั้นแล้ว ผมตัดสินใจเลือกดีแทค ละกัน
ผมว่าสัญญาณกับราคาที่ดีกว่ากันไม่น่าจะต่างเท่าไหร่
ยิ่งผมใช้ในกรุงเทพฯ อยู่แล้วเป็นส่วนมาก ก็เลยเลือกที่ราคาดีกว่า..
เผลอๆ อาจถูกกว่ากันเกือบครึ่ง ถ้าโทรต่ำกว่า 1 นาทีมากๆ
อย่างเช่น ฮัลโหลๆ เฮ้ยอยู่ไหนแล้ว.. อ๋อก็อยู่ข้างหลังมึงไง.. แกร๊ก..
อันนี้คุยไวมาก ไม่ถึงครึ่งนาที สมมติว่า 15 วินาทีละกัน..
ถ้าเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ดีแทคคิด 30 วินาที เอไอเอสคิด 1 นาที
(ออเร้นจ์คิด 15 วิ เอง..)
เอาล่ะครับ เขียนมายาวแล้ว แต่ยังไม่จบ..
ผมตัดสินใจจะใช้ DTAC และตอนต่อไปผมจะต้องเลือกแพคเกจ
คือดูว่าแพคเกจไหนคุ้มที่สุด ถูกที่สุด..
ตามประสาครูสอนพิเศษคณิตศาสตร์ ต้องมีอะไรสนุกๆ อีกแล้ว
อย่าลืมติดตาม :]
นวย