หลายอารมณ์ในหนึ่งวันวันนี้ครับ
ภาพที่ 1
เวลาที่คนหลายคนลุกจากที่นอน
ไม่น่าเชื่อว่าผมจะลุกขึ้นมาถ่ายรูปไหว
เพราะไม่เคยสัมผัสกับเวลาเช้าตรู่ขนาดนี้มานาน
ภาพที่ 2
เวลาที่คนหลายคนในเมืองใหญ่กำลังอยู่บนท้องถนน
หลายคนในเมืองเล็กๆ อาจกำลังจิบกาแฟในร้านปากซอย
สูดอากาศบริสุทธิ์ ถามไถ่ความเป็นไปของคนละแวกเดียวกัน
ภาพที่ 3
แสงแรกของวันใหม่
ทุกเช้าไม่ว่าจะฤดูใดก็จะมีแสงแดดอ่อนๆ พาดเฉียงลงมาเสมอ
สะท้อนความจริงในชีวิตที่ว่า เราไม่มีทางหยั่งรู้ว่าอะไรจะเกิดต่อไป
จนกว่าจะเวลานั้นจะมาถึงจริง
ภาพที่ 4
ชั่วโมงเร่งด่วนของวันหนึ่ง
ทุกคนในเมืองใหญ่ทำงานอย่างขะมักเขม้น
สายโทรศัพท์ถูกใช้งานไม่ขาดจังหวะ
เด็กๆ หลายคนก็กำลังสนุกกับบรรยากาศเปิดเทอมใหม่
ภาพที่ 5
เวลาสำหรับอาหารมื้อเที่ยง
อากาศวันนี้ไม่ร้อนมากนัก สำหรับการย่างเข้าสู่ฤดูฝน
ภาพที่ 6
เวลากาแฟและอาหารว่าง
เติมพลังชดเชยความอ่อนล้าจากการทำงานและการเรียน
ท้องฟ้ายังคงสวยอยู่ แต่เหมือนตึกในภาพจะมืดลงหรือเปล่านะ
ภาพที่ 7
เมฆดำทะมึนลอยตัวอยู่เบื้องบน กว้างมากจนน่ากลัว
แสงแดดแผดจ้าตามเคย แม้ไม่สามารถต่อกรกับเมฆใหญ่ไหว
ผู้คนในเมืองใหญ่และเมืองเล็กคงกำลังแหงนหน้ามองฟ้า
และคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป พายุกำลังจะมางั้นหรือ
ภาพที่ 8
บรรยากาศรอบตัวมืดเข้าไปทุกที
แล้วเมฆดำนั้นก็ลอยผ่านไปช้าช้า
ภาพที่ 9
ฝนตกปรอยเป็นสาย แสงแดดทะลวงฝ่าก้อนเมฆ
แว่วเสียงเพลงลอยมาตามลม
อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
ภาพที่ 10
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่าง
และทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
บรรยากาศสงบยามนี้ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ภาพที่ 11
เย็นย่ำ ผู้คนคงกำลังเดินทางกลับบ้าน บ้านใครบ้านมัน
เพื่อจะเตรียมตัวมาพบกันใหม่วันรุ่งขึ้น
ภาพที่ 12
เวลาเข้าสู่หัวค่ำ ดวงไฟหลายดวงสว่างขึ้นตรงเวลาทุกวัน
พร้อมกับการอำลาของแสงทองแสงสุดท้ายประจำวันนี้
ภาพที่ 13
หากใครได้ลองนั่งลงเงียบเงียบ และมองท้องฟ้าอย่างตั้งใจ
จะพบว่าท้องฟ้ายามเย็นในสถานที่เดิมไม่เคยซ้ำสีกันสักวัน
และไม่มีวันใดที่ฟ้าจะดูไม่สวยเลย หากคุณได้ลองมองแล้วละก็
ภาพที่ 14
ชีวิตคนก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับ.. ฝากไว้ถึงใครที่มีเรื่องทุกข์ใจ
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เดอะโชว์มัสท์โกออน ครับ..
นวย