หลายวันก่อนน้องในกรุ๊ปที่มักจี่กัน คราวยังวนเวียนไปมาในคณะ
โทร.มาชักชวนพอเป็นพิธีให้ไปร่วมงาน เฟิร์สกรุ๊ป ที่ตลาดสามย่าน
ด้วยความที่ว่าเพื่อนๆ อยากไป แม้จะเรียนจบแล้ว และมีคนชักชวน
ผมก็เลยตกลงใจไปด้วยก็แล้วกัน..
บรรยากาศตลาดสามย่านชั้นสอง แหล่งร้านอาหารปริมาณมากเกินอิ่ม
ยังคงเป็นเช่นเดิม เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และน่าจะเป็นไปอีกนาน
ต่างเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้นที่เปลี่ยนไปทุกปีทุกปี
เพราะความไม่เข้าใจ
ตราบใดที่การสื่อสารเรื่องประเพณีและจุดประสงค์
ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องยังไม่ดีกว่านี้..
ตราบนั้นและอีกไม่นาน ประเพณีต่างๆ คงเปลี่ยนไป แบบสิ้นเชิง
ไปแล้ว และกลับแล้ว ก็ยังรู้สึกนิ่งๆ เฉยๆ ราวกับไม่ได้ไปไหนมา
ตั้งข้อสังเกตกับเพื่อนว่า ทำไมน้องไม่มีอาหารให้บ้างเลยหว่า
ก็เลยต้องเอาข้าวเปล่ามากินกับเศษปลาที่น้องๆ แต่ละโต๊ะกินเหลือทิ้งไว้
เห็นบรรดานายช่างจบใหม่ในสภาพแบบนี้ รวมถึงตัวเองด้วย แล้วถอนใจ
นอกนั้น ทำไมน้องไม่แนะนำให้รุ่นพี่กับเฟรชชี่หน้าใสได้รู้จักกันไว้บ้าง
ปีสามปีสี่ยังแทบไม่มีบทบาทด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่รุ่นผมที่เพิ่งจบหมาดๆ เลย
งานวันนั้นมีน้อง ปี 1 ที่สังเกตเห็นการมาเยือนของพี่ๆ ราว 3 คนถ้วน
แบบนี้จะชวนทำหยังฟระ.. ชวนแบบขอไปทีก็น่าจะบอกตรงๆ ก่อน
ไม่ได้เตรียมใจเหมือนกันว่าจะต้องมาเยือนแบบขอไปที..
น้องคนหนึ่งกระซิบชวนไปทริปกรุ๊ปที่จะมาถึงตอนเปิดเทอม
บอกไปว่า อย่ากระนั้นเลยน้องชาย สงสัยเราจะเลยวัยแล้วว่ะ..
ป.ล. เห็นสาวๆ ปี 1 โดยเฉพาะน้องกิ๊ฟกรุ๊ปข้างๆ (กรุ๊ปที) แล้วใจมันระทึก
โอ้โห.. เดี๋ยวนี้คณะเราแจ่มขึ้นทุกปี
เพื่อนๆ และน้องๆ ลงความเห็นกันแล้วว่าน่ารักสุดๆ
อื้ม.. น้องกิ๊ฟเท่านั้นอ่ะ.. :]
ป.ล. อีกที ผมไม่ได้เขียนในอารมณ์เหงา หรือเคืองนะครับ
กลัวจะเข้าใจผิด เหตุการณ์จริงก็พอมีความสำราญบ้างพอหอมปากหอมคอ
โดยเฉพาะบนโต๊ะเหล้าคืนนั้น สี่หนุ่มสบายใจเที่ยว กับสามหนุ่มปี 4
นวย