งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 31 เริ่มแล้วครับ
27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานสัปดาห์หนังสือที่กินเวลาสัปดาห์กว่าๆ ในปีนี้
มีส่วนของบูธหนังสือนานาชาติรวมไว้ด้วยกันเป็นปีแรก
บรรยากาศของงานในวันนี้ วันจันทร์ ไม่เงียบเหงาอย่างที่คิด
บูธของสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ อย่างมติชน อัมรินทร์ นานมี เนชั่น
ซีเอ็ด ฯลฯ ก็มีคนมุงดูกันพอให้ผมยื่นหน้าเข้าไปลำบาก
นี่เป็นเสน่ห์ของงานสัปดาห์หนังสืออ่ะแหละครับ
ขนาดปีนี้ไม่ค่อยมีหนังสือออกใหม่หรืออะไรที่เป็นไฮไลต์นะเนี่ย
เลยทำให้นึกโชคดีที่ไม่ได้มาเดินในวันหยุดสุดสัปดาห์
ไม่งั้นอาจจะหายใจไม่ออกได้
หนังสือโดยทั่วไปทั้งใหม่เอี่ยมและเก่าเก็บ ทั้งขายดีและขาย(พอ)ได้
สำนักพิมพ์ต่างๆ ลดราคาให้ ราวกับนัดกันมา .. ที่ 20%
บางเล่มขายยากจริงๆ หรือมีตำหนิเล็กน้อย ราคาลดอาจพุ่งเป็น 50%
เป็นตัวเลขที่ทำให้สงสัยว่าต้นทุนหนังสือจริงๆ เป็นเท่าไร
ยังดีนะครับที่ยังมีคนให้ความสนใจในงานนี้อยู่ไม่น้อย
ผมได้หนังสือมา 6 เล่ม และเสื้อยืด 1 ตัวครับ
เป็นเสื้อยืดของนิตยสารฉลาดซื้อ ที่สกรีนลายการ์ตูนได้สดใสดี
หนังสือเล่มใหม่ของ วินทร์ เลียววาริณ สองเล่ม
คือนิยายเรื่องยาวอิงประวัติศาสตร์การเมือง --ปีกแดง--
และรวมเรื่องสั้นพร้อมเบื้องหลังการคิดและเขียน --ปั้นน้ำเป็นตัว--
นอกจากนั้นมีหนังสือรวมจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ที่วินทร์เขียนถามตอบกับปราบดา หยุ่น ลงในนิตยสารลิปส์ 1 ปี
ชื่อหนังสือ --ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน--
หนังสือเล่มถัดไปที่ผมได้มาคือรวมเรื่องสั้นของหลายๆ คน
เป็นเล่มที่ปราบดาเป็นคนทำอาร์ตเวิร์ค และเป็นนิตยสารรายสะดวก
--Openhouse #2 (ตุลาคะนอง)-- ของสำนักพิมพ์โอเพ่นบุ๊คส์
อีกเล่มจากสำนักพิมพ์เดียวกันคือรวมเรื่องสั้นของศักดิ์ศิริ มีสมสืบ
ชื่อหนังสือ --สมควร ตาย-- ครับผม
ส่วนเล่มสุดท้าย เป็นบทสัมภาษณ์พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์
โดย บ.ก. a day (โหน่ง วงศ์ทนง) ชื่อหนังสือว่า --เหมือนไขมัน--
รวมแล้วราคาหนังสือทั้งหมด 750 บาท จากราคาปก 935 บาท
ผมประหยัดเงินไปได้เยอะเลยนะเนี่ย
สี่ปีที่ผ่านมาซื้อทีละพันสองพันบาท แม้ว่าจะทยอยซื้อหนังสืออยู่ตลอดปีก็ตาม
ปีนี้นับว่าประหยัดเงินไปได้มาก เพราะผมไม่ได้ซื้อหนังสือมานานแล้ว
แต่ในงานนี้ผมได้เพียง 6 เล่ม,
สำนักพิมพ์มติชนไม่ได้เงินจากผมไปเลยซักกะบาท
คนตกงานไร้เงินก็งี้แหละครับ จะซื้ออะไรเริ่มคิดแล้วคิดอีก
นักเขียนชื่อใหม่ๆ ออกมาเยอะแยะ ไม่รู้ว่าอ่านแล้วดีไหม
แต่ช่วงนี้คงไม่มีการซื้อกวาดๆ มาทดลองอ่านแล้วล่ะ..
ผมเริ่มได้ไอเดียใหม่แล้วสิ
วันหลังผมแนะนำหนังสือเล่มโปรดดีกว่า..
นวย