ผมเห็นคนจำนวนไม่น้อย ที่หลังจากอ่านบันทึกของคนอื่นแล้ว
ก็เกิดอะไรดลใจให้อยากเขียนกะเค้าบ้าง
ไม่ใช่แค่เห็นหรอก
เพราะที่จริงผมก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนนั้นด้วยแหละ..
ผมเขียนบันทึกลงสมุดมาตั้งแต่ ม.5 ... เขียนต่อเนื่องมา 5 ปีครึ่ง
ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ โน้ตบุ้ค ของโน้ต อุดม ครับ :]
อ่านแล้วก็รู้สึกว่า..เออหนอ ชีวิตผมเองก็มีอะไรมากมายนี่หว่า
อยากจะเขียนเก็บไว้ ไม่อยากปล่อยให้ผ่านไปวันๆ แล้วก็ลืม..
เวลาเอามาอ่านเองก็สนุกดี บางเรื่องก็ขำตัวเอง
บางเรื่องอ่านแล้วก็ยังแค้น บางเรื่องก็ยังคงเศร้าไม่หาย..
... แล้วถ้าผมมีลูก ผมอาจจะเอาให้ลูกอ่านเล่นๆ ก็ได้
ผมว่ามันคงช่วยสอนอะไรได้มากทีเดียว..
สมุดบันทึกที่ผมใช้ มีแบบเดียว คือชุดหนังสือส่วนตัว (สนพ.ผีเสื้อ)
เป็นหนังสือว่างเปล่าทั้งเล่ม .. ไม่มีตัวพิมพ์ ไม่มีเส้นบรรทัด
ราคาเล่มละประมาณ 80 บาท และหนาประมาณ 250 หน้า
เย็บกี่และไสกาวที่สันอย่างดี แม้เวลาใช้ๆ ไปกาวจะหลุดบ้างก็ตาม..
ปัจจุบันก็เขียนมาถึงเล่ม 13 แล้ว.. เกิน 3,000 หน้าไปเรียบร้อย
ช่วงแรกๆ วาดรูปเยอะ แต่พอยิ่งโตขึ้นยิ่งมีแต่ตัวหนังสือเต็มพืดไปหมด
แล้วพอปลายปีที่แล้วนี่เอง ผมก็ได้แรงบันดาลใจให้เขียนเว็บไดอะรี่ด้วย
หลังจากถูกใจลีลาการเขียนของรุ่นพี่คนหนึ่งแหละครับ.. นามว่าพี่ปู๊ด..
จากวันแรกที่ได้อ่าน ผมก็รีบสมัครขอใช้บริการเว็บไดอะรี่ทันที
แต่ด้วยความไม่สมบูรณ์ของเว็บนั้น (เว็บมันชำรุดบ่อย)
ผมก็เลยถอนตัวออกมาทำเองใช้เองอย่างทุกวันนี้แหละ...
เว็บไดอะรี่ต่างจากไดอะรี่ในสมุดธรรมดาตรงที่ว่า
เว็บไดอะรี่เขียนแล้วมีคนอื่นๆ มาอ่านด้วย
จะเขียนเป็นส่วนตัวเกินไปนักก็ไม่ได้ คนอ่านก็งง..
เวลาจะเขียนอะไร หรือเอ่ยชื่อใคร ต้องเกริ่นที่มาที่ไปตลอด
แล้วลำบากขนาดนี้จะเขียนเป็นไดอะรี่สาธารณะไปทำไมเล่า ??
.. สงสัยมั้ยล่ะ .. ผมก็ไม่รู้สิเนาะ
... เคยมีคนบอกผมว่า
คนที่ชอบเอาเรื่องตัวเองให้คนอื่นอ่านนั้น เป็นคนโรคจิต..
แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาบอกใหม่ว่า
คนที่ชอบอ่านเรื่องของคนอื่น ก็โรคจิตไม่แพ้กัน.. ฮ่ะๆๆ..
และบอกว่าเขาก็เป็นโรคจิตไปแล้ว หลังจากอ่านเรื่องของผม..
:]
คนเขียนเว็บไดอะรี่ มักจะมีปัญหามากกว่าคนเขียนลงสมุด
เพราะถ้าเกิดวันดีคืนดีไม่มีคนมาอ่าน ก็กลายเป็นพูดอะไรอยู่คนเดียว
อาจจะเบื่อ แล้วหันไปหาอย่างอื่นทำได้.. เรียกว่าไม่รักจะเขียนจริง
หรือบางทีไม่มีอะไรจะเขียน ก็พาลหยุดไปซะดื้อๆ
(ก็ใครจะมีเรื่องสนุกมาเล่าทุกวันจริงไหม..)
ปัญหาของคนที่ต้องเขียนทุกวันมันเป็นแบบนี้ครับ..
... แล้วทำไมผมถึงเขียนเว็บไดอะรี่ล่ะ ??
น้องคนหนึ่งถามผม เพราะที่ผมเขียนมันก็แทบไม่มีคนอ่านเหมือนกัน
ผมเคยพูดไว้ในวันแรกของเว็บไดอะรี่แล้วว่า..
ผมตัดสินใจแล้วจริงๆ ... คิดดีแล้วว่าจะเริ่มเขียน
การตัดสินใจหมายถึงยอมรับว่า จะมีกิจวัตรใหม่เข้ามาในชีวิต 1 อย่าง
เลิกไม่ได้ง่ายๆ .. ต้องตั้งใจเขียนตลอด หรืออย่างน้อยถ้าจะเลิกก็คืออิ่มตัวแล้ว
ไม่ใช่แค่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือนเลิก..
แปลว่าผมไม่สนคนอ่านเหรอ.. ก็เปล่าหรอก
มันก็มีส่วน แต่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายทั้งหมดไง..
... ที่จริงถ้าให้เลือกระหว่างไม่มีคนเขียน comment เลย
กับช่วงแรกๆ ที่มีแต่ใครไม่รู้จัก จู่ๆ ก็เข้ามาแล้วบอก
เอ่อแวะมาเยี่ยมครับ.. หรือ บังเอิญผ่านมา.. หรือ ไปเซ็นตอบให้บ้างสิคะ..
ผมเลือกไม่มีคนดีกว่า
... จุดหมายที่ชัดเจนของการเขียนเว็บไดอะรี่ของผม มีสามอย่างครับ
(1) เขียนเล่าเรื่องสนุกๆ พยายามให้คนอื่นอ่านง่ายๆ ..อยากให้คนอ่านสนุก
(2) เป็นการฝึกเขียน (ผมอยากเป็นนักเขียน) อย่างน้อยได้เขียนอะไรทุกวันก็ดี
(3) เมื่อเขียนไปได้ระยะหนึ่ง จะรวมเล่มไว้เป็นอีกส่วนหนึ่งของสมุดบันทึก
เพราะการเขียนลงเว็บ กับการเขียนลงสมุด แม้บางทีจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน
แต่เทคนิคการเขียน วิธีการเล่าเรื่อง และมุมมองที่สรุปเรื่อง จะไม่เหมือนกัน..
... วันนี้มีน้องคนหนึ่ง เริ่มเขียนบันทึกในเว็บเป็นวันแรก
ผมได้ข่าวแล้วก็รู้สึกยินดีไม่น้อย แต่ก็มีความกังวลอยู่ด้วย..
เพราะผมเคยผิดหวังมานักต่อนัก กับคนที่เอาเว็บไดอะรี่มาอวดให้อ่าน
แล้วพอไม่กี่วันต่อมา ก็เลิกเขียน ปล่อยให้มันหยุดเฉยอยู่อย่างนั้น..
ไม่ใช่แค่คนสองคนแต่มากกว่านั้นเยอะ คนรอบตัวทั้งนั้น..
.. หวังว่าคนที่จะเขียนต่อๆ ไปคงไม่เลิกกลางคันแบบนั้น
น่าเสียดายออก ...
ลืมแรงบันดาลใจตอนที่เริ่มเขียนวันแรก กันแล้วหรือไร..
นวย