0143
1/6/45 .. สวัสดีคนอื่นๆ อีกที (1)
แสดงทั้งหมด

17/6/45 .. ว่าด้วยเรื่องท่วมหัว (1)ตอบ: 1, อ่าน: 1021

ไม่ได้เขียนเว็บไดอะรี่เสียหลายวันอยู่
เกือบจะละสายตาจากความฝัน นานเกินไปแล้ว
หากว่าวันนี้จะไม่มีเวลาว่าง เวลาแว่บ มานั่งหน้าจอเสียครู่หนึ่ง

ที่ผมหายไปนานก็เพราะไม่มีเวลาเขียนแหละครับ
แต่ที่ผมกลับมาก็คงเพราะ มีคนถามถึงเว็บไดอะรี่หลายคน
ถึงจะไม่มากมายล้นหลาม แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมยิ้มได้
อย่างน้อยมีคนสนใจสิ่งที่เราทำแฮะ.. ผมนึกในใจ

เรื่องราวตั้งแต่เปิดเทอม มันมีอะไรอะไรให้ทำ ให้คิด
มากกว่าปกติที่จะพึงมีในช่วงเวลาสองสัปดาห์
... เรื่องราวช่วงที่หายหน้าไปสิบกว่าวัน
อัดแน่นอยู่ในสมุดบันทึกเป็นความยาว 30 หน้า
ถ้าเล่าละเอียดยังไงก็ไม่หมด..
ลองพยายามดูละกัน !!


2/6/45 .. อยู่บ้าน เล่นและร้องอัด เดโมเพลงแต่งเอง ชื่อ --ตลอดมา--
และพยายามอัดเสียงร้องเพลง --minute of love-- ที่ไปอัดกีตาร์บ้านเพื่อนมา
แต่เสียงแย่มานานเป็นสัปดาห์เพราะนอนน้อยและดื่มเยอะ
ร้องเสียงไม่ถึง แปลกใจมาก .. ร้องอัดได้แต่เสียงประสานเก็บไว้


3/6/45 .. วันเปิดเทอม ขึ้นปีสุดท้ายอย่างเต็มตัวแล้วสิเรา
ปีนี้สนุกตรงที่ว่า ต่างคนก็ต่างเลือกลงเรียนวิชาที่ตัวเองอยากเรียนได้อิสระ
ดังนั้นก็จะไม่ค่อยได้เจอเพื่อนที่คุ้นๆ กันเท่าไหร่ สวนกันไปสวนกันมา
วิชาที่เลือกลงเรียนส่วนใหญ่เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ senior project

วันแรกของการเปิดเทอมก็เอาซะแล้ว
บ่ายๆ ว่าง เพื่อนแก๊งสบายใจเที่ยว ก็มานั่งรวมกันโดยมิได้นัดหมาย
แน่นอนครับว่าต้องมีการโวยวาย และมีการฝึกฝีปากกันพอเป็นพิธี
ค่ำนั้นกลับมาถึงปากซอยบ้าน ดีใจเหมือนเจอเพื่อนที่จากกันไปนาน
ทั้งที่จริงๆ แล้วแค่บังเอิญเจอพี่ช่างคนหนึ่ง จากเทเลคอมเอเชียเพลินจิต
ก็ที่ที่ผมไปฝึกงานด้วยแหละครับ
ช่วงนี้นอกจากผมจะติดนิสัยชอบเดินมองสายโทรศัพท์ และสถานีลูกข่าย PCT
แล้ว เวลาเดินถนนเห็นรถกระบะมีแคป สีขาว ยังตกใจทุกที
นึกว่าพนักงานเทเลคอม จะเข้าไปทักทุกทีเลย..


4/6/45 .. ดูหนังเกาหลี --My Sassy Girl-- ตามคำยุ
นอกจากหนังเรื่องนี้จะสนุกแล้ว หลายฉากยังเรียกน้ำตาและน้ำมูกผมได้ด้วย
บางทีความประทับใจในเนื้อหาก็เรียกน้ำตาได้แฮะ
บางคนที่ไปดูด้วยกันกลับไม่เข้าใจว่าเศร้าตรงไหน
ไม่ได้เศร้าครับ แต่ซึ้งใจ
... คราวหน้าดูหนังจะเตรียมขันไปรองน้ำตา วันนี้เสื้อเปียกหมดเลย
ผมว่าการดูหนังมันช่วยขัดเกลาอะไรในตัวเราได้ไม่น้อย


5/6/45 .. เรื่องใหม่ในชีวิตที่ต้องคิด นอกจากเรื่องหญิงแล้ว : ]
คือเรื่องขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (ก.ว.)
เพราะการขอนี่มีหลักเกณฑ์ มีเงื่อนไขวุ่นวายพอสมควร
ขอมาแล้วต้องเสียค่าสมาชิกปีละ 3,000 บาทอีกต่างหาก
กำลังคิดอยู่ว่าจะไม่ขอดีไหม เพราะไม่อยากประกอบอาชีพทางนี้เลย
แต่หากไม่ขอตอนนี้ อีกไม่นานการขอต้องมีทดสอบด้วย อย่างยากอ่ะ..

และอีกเรื่องก็คงจะเป็นการเตรียมงานค่าย E-Camp ของชมรมไฟฟ้า
ในฐานะที่ปีที่แล้วผมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในรุ่นที่มาช่วยทำ
และเป็นคนที่ใกล้ชิดน้องๆ ม.ต้น ที่มาเข้าร่วม มากที่สุด
ปีนี้ก็เลยกลายเป็นแกนหลักในการจัดงานไปโดยปริยาย
คราวนี้แก่แล้ว ไม่เป็นพี่เลี้ยงดูแลการกินการนอนของน้องๆ แล้ว
ผมจะลากแก๊งสบายใจเที่ยว มานำกิจกรรมกัน
เรื่องไร้สาระ เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับวิชาการ ขอให้บอก !!


6/6/45 .. มีเรื่องเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งมันดื้อเกินเหตุ
ถ้าจะพูดย่อๆ ก็คือ ไปหลงรักน้องคนหนึ่งในคณะเข้า แบบหัวปักหัวปำ
แล้วก็ดันเพิ่งมารู้ว่า น้องคนนั้นน่ะ มีคนรู้ใจอยู่แล้ว
เป็นน้องในกรุ๊ปเรานั่นเอง เห็นหน้ากันบ่อยๆ
ฝ่ายเพื่อนผมแทนที่จะถอย กลับบอกว่ายังไงกูก็จะแย่ง
เฮ่ย ดีเหรอ เป็นคนอื่นยังดูแย่ นี่เป็นน้องกรุ๊ปอีกต่างหาก.. ไอ้บ้าเอ๊ย..
มันอ้างเหตุผลอยู่สองอย่าง ซึ่งฟังไม่เข้าท่าซักข้อ
1. น้องคนนั้นกูถามแล้ว ไม่ยอมบอกกูว่าคิดยังไง แถมบอกว่าพี่จีบได้เลย
ทำไมมันไม่บอกกูตรงๆ ล่ะว่าชอบอยู่ ... กูจะได้เลิกหวัง..
(อ้าว.. แล้วทำไมผมจะต้องบอกพี่ด้วยล่ะว่าคิดยังไงอยู่.. พี่เป็นใครครับ)
2. ถ้าให้กูถอยและรอน่ะ.. กูรอไม่ไหวนะ.. จะให้รอถึงเมื่อไหร่
ไอ้นั่นมันจะมาบอกเหรอว่า.. พี่ ผมหมดหนทางแล้ว ตาพี่แล้ว..
(โห ดูมันพูด.. เถียงไม่ขึ้นเลยแบบนี้..)

ครั้นจะบอกให้มันหาเอาใหม่ มันก็บอก คนนี้สุดๆ แล้ว
กูไม่มีวันรักใครมากเท่าคนนี้แล้ว
และเรื่องมันจะไม่เป็นเรื่องเลย
หากความจริงฝ่ายหญิงเขาจะไม่รำคาญเพื่อนผม
ที่คอยโทรตามโทรเช็ค คอยกีดกันต่างๆ นานา
เท่านั้นไม่พอ เพื่อนๆ และน้องๆ ต่างหงุดหงิดกับอาการร้อนรน
และเดือดร้อนจากการกระทำของไอ้เพื่อนผมคนนี้ไปถ้วนหน้า
ว่าจะไม่ยุ่งแล้วเชียว ก็ให้ผมต้องยุ่งจนได้ เฮ้อ...


7/6/45 .. บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็มักจะเกินความคาดหมายเสมอ
หลังจากงานที่จัดมาหลายงานไม่ค่อยได้ผลน่าพอใจ
ผมก็พยายามคิดเผื่อใจสำหรับทุกสิ่งในทางที่แย่ที่สุด
แต่ใครจะรู้ครับ ว่ามันมักจะมีทางที่แย่ไปกว่าทางที่คิดว่าแย่ที่สุดแล้ว..
วันนี้ผมเจอกับมันครับ..

นาย ก. กำลังรู้สึกดีกับสาวคนหนึ่ง และนาย ก. กำลังมีความสุขกับชีวิต
นาย ก. เผื่อใจไว้ว่า หากอะไรมันจะแย่ ก็แค่อาจจะโกรธกันไป เลิกคบกันไป
แต่ว่า นาย ก. ไม่ทันคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง มันแย่กว่าที่เผื่อใจไว้
นาย ก. ถูกสาวคนนั้นหาว่า นิสัยไม่ดี ไม่จริงใจ ... นิสัยเหมือนนาย ข.
... และจะไม่เชื่อคำพูดนาย ก. อีกแล้ว
โอ้โห.. เจอแบบนี้นาย ก. เครียดจัดเลย ถึงขนาดเอามาระบายลงสมุดบันทึก..


8/6/45 .. ใครไม่เชื่อหมอดู ไม่เป็นไร แต่ผมคนหนึ่งล่ะที่เชื่อแล้ว
ชีวิตนี้ผมเคยดูหมอมา 2 รอบ ในปีที่แล้วนั่นเอง
รอบแรกยังไม่คิดอะไร.. (มันก็ตรงแหละ..แต่คิดว่าอาจจะบังเอิญ)
แต่พอดูรอบสอง วันนี้เองผมจับอะไรได้หลายอย่าง ขนลุกเลยครับ
อย่างเช่น หมอดูทำนายไว้ตั้งแต่เดือน 11 (ปีก่อน) ว่า..
ผมจะเจอหญิงในเดือนมิถุนายน (เดือนนี้)
และเนื้อคู่จะทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
ผมคุยกับเธอ ที่เจอกันในเดือนนี้.. (ไม่เจอหญิงเลยตั้งแต่เดือนที่ดูหมอ)
เธอบอกว่า หากเรียนจบแล้ว ใจจริงอยากทำงานท่องเที่ยว.. !!


9/6/45 .. ใช้เวลาเที่ยงวันยันเที่ยงคืน สองวันเต็ม
ในการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ จัดการกับไฟล์รูปภาพของรับน้องบ้านผี
เพื่อย่อยมันลงมา จาก 470 รูป เป็นไฟล์ใหญ่ไฟล์เดียว
โธ่ เพื่อนผม หางานมาให้ทำอีกแล้ว.. เฮ้อ.. ทำจนเหนื่อย..
โชคยังดีที่โปรแกรมโฟโต้ช็อพ มีฟังก์ชั่นมาโคร (Actions)
เอาไว้ทำงานอัตโนมัติ ไม่งั้นอาจต้องนั่งทำต่ออีกสองวันกว่าจะเสร็จ
แล้วก็ไปเยี่ยมผมในโรงพยาบาลได้เลย.. :)


10/6/45 .. เป็นวันดีอีกวันหนึ่ง เป็นช่วงชีวิตขาขึ้นของผมแล้ว ??
ได้รู้จักทักทายคนที่อยากรู้จักทักทายมาหลายปี แต่ไม่เคยมีโอกาส
และไม่เคยมีความกล้า
ได้คนมาช่วยงานโปรเจ็กที่แสนจะหนักหน่วง อาจารย์เอาจริงตั้งแต่ต้นเทอม
ได้เอาดอกกุหลาบ เดินเข้าไปให้ใครคนหนึ่งในชั่วโมงเรียน
โดยที่ไม่ทันดูว่าอาจารย์ห้องนั้นกำลังจะเริ่มสอนแล้ว..
แต่อาจารย์ก็ใจดีเกินคาด...
คงเพราะคณะเรามีงานแจกกุหลาบสาวๆ (เปิดสามแยกปากหวาน) พอดี
ยังสงสัยตัวเองว่าวันนี้ผมเอาความกล้ามาจากไหนกันมากมายตลอดวัน..


11/6/45 .. วันแห่งเรื่องราวจิปาถะ เก็บตก
- ผมได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของน้อง --ชอลิ้วเฮียง-- แห่งเว็บไทยไดอะริสต์ แล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของน้องชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ขอบคุณมากเน้อ..
- ผมเจอพี่ช่างเทเลคอมอีกแล้ว
ที่จริงหากเห็นรถกระบะเทเลคอมแถวๆ นี้ ก็เข้าไปทักได้เลยครับ
รู้จักหมดทุกคน..
- ตาลุงคนใต้ที่เดินขอเงินชาวบ้านชาวช่อง ก็ยังคงเดินประกอบอาชีพต่อไป
คราวนี้เจอกันตอนสว่างๆ และย้ายสถานที่จากเดิมมาเป็นแยกราชเทวีอีกแล้ว
บริเวณทำเลทองแห่งการเดินขอเงิน.. -- หนุ่ม หนุ่ม.. รู้เจิกขนโส่งเสยเต้ยเม้ย..--

- น้องสาวคนหนึ่งในกรุ๊ป ซึ่งมีสถานะเป็นน้องรหัสของผม
เธอโทรมาหาผม โดยที่ปกติหากไม่มีอะไรจะไม่เคยโทรมาหา
ไม่ขอหนังสือ ก็ขออุปกรณ์วาดรูป หรือไม่ก็อะไรสักอย่าง
คุยกับเธอในไอซีคิว.. พอทักทายไป สิ่งที่ตอบกลับมาคือ You were added..
... หนนี้เธอโทรมาหลังจากขาดการติดต่อไป นานเป็นปีๆ
คุณลองเดาสิครับว่าเธอต้องการอะไร
คำเฉลยก็คือ เธอพยายามจะชักชวนผมทำธุรกิจขายตรงนั่นเอง..
ผมปฏิเสธไปแบบตรงๆ และแข็งๆ..
ธุรกิจจำพวกฝันไกล.. ตาลุกเป็นประกาย.. แบบนี้ผมไม่ค่อยถูกโฉลกแฮะ..
วันหลังจะเล่าให้ฟังครับว่าทำไม..


12/6/45 .. จิตใจหวั่นไหวไปพักหนึ่ง
หลังจากเขียนบันทึกแล้วค่อยกลับมาเป็นคนเดิม..
.. อะไรบางสิ่งเมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลง
แม้จะไม่ได้ห้ามเปลี่ยน แต่หากมีจิตใจคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ผมก็ควรจะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง ถูกไหมครับ..


13/6/45 .. วันแห่งความซวยครับผม
- เขียน CD ใช้การได้ 2 แผ่น ขณะที่เสียไป 5 แผ่น..
เสียเงินไม่น่าเบื่อเท่าเสียเวลา.. บางแผ่นเขียนเร็วเกิน
บางแผ่นแผ่นเสีย บางทีดีหมดแต่ไฟตกตอนกำลังใกล้เสร็จ..
มันทำให้ผมอารมณ์เสีย..
- เหมากล่อง CD มา 10 อัน แต่เอามาถึงปรากฏว่าใส่ไม่ได้
- เกือบจะไปเรียนไม่ทัน ต้องโดดขึ้นรถแท๊กซี่ เสียเงินอีก..
คนขับก็ชวนคุยแต่เรื่องฟุตบอลๆ..
** เอ่อ ผมไม่ได้ดูบอลหรอกครับ
** เหรอ.. แล้วเชียร์ทีมอะไรล่ะ..

- ตอนเย็นจับพลัดจับผลูเลือกหนทางผิด
ไปนั่งกินข้าวในหมู่เพื่อนที่เคยสนิทใจ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอย่างไร
ใจไม่ค่อยสนิท พูดคุยไม่ค่อยถนัด และบทบาทของผมเป็นศูนย์..
- เดินกลับบ้าน ทำชีทหล่นหายไป 1 ชุด..
- กลายเป็นคนกลางในเรื่องที่ผิดใจกันระหว่างเพื่อน ร.ร. และเพื่อนคณะ
โดยที่ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง และไม่เคยรู้เรื่องด้วยเลย..
แบบนี้ก็ลำบากใจไม่น้อย มีเรื่องให้คิดเพิ่มมาอีกเรื่อง


14/6/45 .. มีงานเลี้ยงในกรุ๊ป ที่ร้านอาหารข้างๆ ตลาดสามย่าน
เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมดื่มเพียวเป็นปริมาณมากไปนิด
ส่วนหนึ่งคงเพราะเห็นน้องๆ ตอนแนะนำตัว ดื่มทีละคนนั้น
ดื่มกันมากเหลือเกิน ในฐานะพี่ปี 4 จะดื่มน้อยก็กลัวจะว่าไม่รักจริง
แต่เหตุผลส่วนใหญ่คงเพราะ ยุ คำเดียวแหละครับ.. : ]

ดื่มไปได้ไม่กี่นาที สมองเริ่มมึน เบลอ และขาดความยับยั้งชั่งใจ
(วันหลังจะเขียนเรื่องดื่มเหล้าอีกทีละกันครับ มีเรื่องมากมายเลย)
แต่กระนั้นก็ไม่วายไปกินกันต่อที่ร้านเสือร้องไห้เจ้าประจำ บนถนนจันทน์
กลับถึงบ้าน ตี 2 ... ประทับใจในงานนี้ตรงที่ผมสามารถ
สอนน้องๆ ปี 2 จำนวนหนึ่งให้บูมกรุ๊ป ได้..
ดีใจก็เพราะรุ่นผมน่ะ คนอื่นยังไม่มีใครท่องได้เลยด้วยซ้ำ..


15/6/45 .. เรื่องอึดอัดใจในช่วงนี้ก็คือ เรื่องโปรเจ็ก
เพราะอาจารย์ของผมโหดดี
กลัวว่าผมจะทำไม่เสร็จ ก็เลยนัดพบสัปดาห์ละสองวัน
คู่หูโปรเจ็กของผมเป็นผู้หญิง นามว่า พริ้ม ครับ..
วันนี้ผมไปไม่ไหวเพราะดื่มหนักในงานเลี้ยงกรุ๊ปคืนที่ผ่าน
ก็เลยโทรขอเลื่อนอาจารย์ล่วงหน้า
แต่ผิดแผนอีกแล้วครับ ..
อาจารย์บอกว่าถ้ามาไม่ได้ก็ให้พริ้มมาพูดคนเดียวแล้วกัน
อ้าว.. พูดไม่ออกเลย.. โชคดีที่พริ้มไม่โกรธเอาเสียก่อน..
สรุปแล้วพริ้มไปคนเดียวก็ไปขอเลื่อนอาจารย์ เป็นวันจันทร์สำเร็จจนได้
แต่ปัญหาของผมก็คือ ผมจะทำความเข้าใจตำราที่อาจารย์มอบหมายมา
ให้ทันวันนัดได้อย่างไร.. อ่านเท่าไรก็ไม่รู้เรื่องสักที
ทำไมเนื้อหาทฤษฎีมันช่างน่าเบื่อขนาดนี้หนอ..
บางอารมณ์นึกอยากเปลี่ยนหัวข้อ หรือไม่ก็เปลี่ยนอาจารย์ไปด้วยซะเลย
... ติดอยู่ตรงเกรงใจอาจารย์นี่ล่ะครับ
มองไปรอบๆ ตัว เรื่องที่สนใจจะทำโปรเจ็กมากกว่าที่ทำอยู่นี้
มันก็มีมาล่อใจอยู่ไม่น้อย .. แล้วทำไมผมถึงเลือกเรื่องนี้หว่า..


16/6/45 .. งานเลี้ยงบ้านผี เพื่อเฉลยบั๊ดดี้ ทำเอาผมน้ำตาร่วง
ก็เพราะเงินหมดนี่แหละครับ วันก่อนซื้อ CD ไป 500
วันนี้ซื้อของขวัญให้บั๊ดดี้ 2 คน 2 ชิ้น แถมด้วยค่ากินอีก ไปเกือบพัน
สัปดาห์ที่เหลือนี้คงต้องโดดเรียนอยู่บ้าน
หรือไม่ก็นั่งรถเมล์กลับไปกินข้าวบ้านทุกเที่ยง แบบคนชนบท..
เอ.. หิ้วปิ่นโตไปกินที่คณะก็ไม่เลว.. : ]

ของขวัญที่ผมเอาไปให้บั๊ดดี้ ผมชอบใจไอเดียตัวเองเหมือนกันแฮะ
น้องเขาบอกว่าอยากได้ขนมเยอะๆๆๆๆๆ.. ผมก็เลยจัดแจง
ซื้อขนมจากสยามฯ ซอยตรงข้ามมาบุญครองน่ะ ไปสองร้อยบาท
ได้มาปริมาณมากกว่าที่คิดดังนี้ครับ
- ขนมหม้อแกง 1 ถาด - ขนมไข่ 1 ถุง - วุ้นกะทิใบเตยและกาแฟ 1 ถุง
- ตะโก้ข้าวเหนียว 1 กล่อง - ขนมครกสิงคโปร์ (เขียวๆ) 1 กล่อง
- ขนมแป้งทอด (แบนๆ) 1 ถุง - มันทอด เม็ดกลมๆ 1 ถุง
- ขนมปังทอดไส้ต่างๆ อีก 5 อัน ... (ตีซี้คนขาย เลยได้แถมมาอีก 1 อัน)
แต่ละอย่างเห็นแล้วอบากกินเองมาก น้ำลายสอเลย.. : ]
แล้วพอผมให้ของแก่บั๊ดดี้ไปแล้ว
ตอนแลกของขวัญ ผมก็ให้ของขวัญซึ่งห่อด้วยกระดาษ LOFT อย่างหรูไป
แต่แล้วข้างในเป็น ยาลดกรดอีโน รสส้ม 1 ขวดครับ..
แบบว่าเซอร์ไพรส์ไง.. ตีซี้คนห่อของขวัญที่ LOFT ไว้แล้วล่วงหน้า :)
ที่ให้ยาลดกรดก็เพราะขนมที่ให้ไป มันเยอะๆๆๆๆ แบบที่อยากได้ล่ะเออ..


17/6/45 .. ยังดีที่แม่ให้เงินเพิ่มหลังฟังคำบ่นเมื่อวาน
ไม่งั้นผมคงต้องกินแกลบจริงๆ
ยังคิดอยู่ว่าถ้าช่วงทำบ้านรับน้อง ไม่เบี้ยวเงินเค้าเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ งาน
ถ้าจ่ายครบทุกงาน ช่วงนี้ยิ่งไม่ตายใหญ่หรือ..

วันนี้ก็เอาเวลาหมดไปกับการอ่านตำราโปรเจ๊กนั่นแหละ
อ่านไม่ทัน แต่โชคยังดีที่ระฆังช่วยชีวิตไว้
แต่ถ้าผมไม่รีบอ่านให้จบและให้เข้าใจในสองวันนี้
วันพุธผมโดนอาจารย์เคืองแน่ครับ..
โอ้โห นัดอะไรกันบ่อยๆ งานอื่นไม่เป็นอันทำแล้ว
อาจารย์กะไม่ให้ผมได้เรียนหรือทำรายงานวิชาอื่นเลยแฮะ..
วันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่คิดอยากเปลี่ยนหัวข้อโปรเจ็ก
ไปทำเรื่องที่ผมสนใจกว่านี้... คิดทีไรก็ถอนหายใจทุกที เพราะรู้ว่าไม่มีทาง
เคยมีอาการแบบนี้ไหมครับ.
นวย 17/06/2002 20:13 
หายไปนาน
กลับมาที..ได้อ่านจนจุใจเลยนะเนี่ย
พี่จุ๊ 19/06/2002 19:10  [ 1 ] 
สามารถใส่ html tag โดยใช้เครื่องหมาย { } แทน < >      
ความเห็น : 
จาก : : รหัส
(อีเมล/เว็บไซต์) : อัพโหลดรูป/ไฟล์
ถ้าไม่มีรหัสประจำตัว กรุณาใส่ "เลขหนึ่งสี่ตัว" ด้วยครับ