15/2/45 .. ว่าด้วยเรื่องวิชาความคิดตอบ: 1, อ่าน: 1715

เมื่อวานนี้ไปเรียนตอนบ่ายไม่ทันครับ..
และก็บังเอิญให้เจอเพื่อนคนหนึ่ง
ซึ่งกำลังจะไปเข้าชั้นเรียนวิชาความคิดสร้างสรรค์พอดี
เพื่อนเล่าว่า
... วิชานี้เปิดสอนเป็นวิชาเลือก หมวดมนุษยศาสตร์
เป็นชั้นเรียนที่แอคทีฟมาก
มีกิจกรรมใหม่ๆ มาทุกสัปดาห์
มีคนจากหลายๆ คณะมารวมกันจำนวนเกือบ 40 คน
เปิดรับเฉพาะนิสิตปี 3 และ 4 เท่านั้น
ควบคุมความเป็นไปโดยอาจารย์คณบดีคณะศิลปกรรม
เรียนกันสบายๆ ไม่มีตำรา ไม่มีกฎตายตัว..
ทุกอย่างอาจารย์พยายามมอบหมายให้นิสิตช่วยกันทำ
รวมทั้งการให้คะแนนกันและกันเองด้วย..


... ได้ยินดังนั้นไม่รีรอเลยฮะ
ผมขอเข้าไปนั่งสังเกตการณ์ในห้องด้วยหนึ่งคน
ส่วนวิชาของตัวเอง.. โดดอ่ะ..

บรรยากาศในห้องเรียน ชั้น 2 ตึกบรมฯ คณะอักษร
..สว่างมาก โต๊ะเก้าอี้ขาวไปหมด..
นั่งล้อมวงเป็นรูปตัว U
สำหรับเนื้อที่กิจกรรมตรงกลาง
...กิจวัตรของวิชานี้มี

-- Man Show .. คือการผลัดกันออกมา
แสดงสิ่งที่ตนเองต้องการ "โชว์"
เพื่อนผมโชว์การเล่นกีตาร์หน้า B ครับ..
(เคาะกีตาร์ และร้องไปด้วย)
และก็เอาอะไรสารพัดสารเพไปดัดแปลงเสียงกีตาร์
.. บางคนก็แสดงการทำน้ำสลัด
สาวนิเทศเอาหนังสั้นที่ทำเองมาเปิดให้ดู
ก็ต่างๆ กันไปสุดแต่จะคิดหามา

-- กิจกรรมผสม .. คือการเสนอไอเดียกิจกรรมแบบใหม่ๆ
เมื่อวานนี้คณะสถาปัตย์เสนอการนำเกมบอลลูน
มาผสมกับการฝึกแทก (พุ่งชน) ของกีฬารักบี้
ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ฝึกกันอยู่ ...
สาวอีกคนจากที่ไหนไม่รู้เสนอเกี่ยวกับ
กิจกรรมในสถานสงเคราะห์ต่างๆ
ไอเดียของเธอคือ การรวมบ้านพักคนชรา
บ้านเมตตา และบ้านเด็กอ่อน เข้าด้วยกัน..
คำว่าบ้าน จะได้มีความหมายยิ่งขึ้น..
ผมเข้าใจไอเดียนี้ครับ น่ารักมาก .. ผมชอบ

-- สัปดาห์หน้าเป็นการสอบ
อาจารย์ให้เอาตะเกียบที่แจกทุกคนไปในคาบแรกมาด้วย
นอกนั้นไม่ต้องใช้อะไรเลย
อาจารย์ไม่บอกว่าสอบอย่างไร
ผมว่าถึงวันสอบคงสนุกดีนะ..

-- ปิดเทอมไปแล้วจะต้องส่งงานประดิษฐ์คนละ 1 ชิ้น
ในคอนเซ็ปต์ "สนุก"..
ซึ่งจะจัดแสดงเป็นนิทรรศการที่คณะศิลปกรรม
วันที่ 9 มีนาคม เวลา 10 โมง ถึงเที่ยงครับ..
พยายามจะไปดูให้ได้เลย..
เพื่อนคนเดิมบอกว่า จะทำเครื่องดนตรีแบบใหม่ขึ้นมา
อืมม.. แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว..

หมายเหตุ : ได้ยินว่าสัปดาห์ที่แล้วมีวิทยากร สาธิตการใช้พลังจิต
สะกดจิตคน และใช้ทิชชู่ตัดตะเกียบด้วย
(ผมใช้ตะเกียบตัดทิชชู่ ยังไม่ค่อยจะขาดเลย)



... อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งคิดว่าชั้นเรียนวิชานี้ดีเลิศ
เพราะพอผมนั่งๆ สังเกตการณ์ไปได้สักพัก
ผมได้ข้อสังเกตขึ้นมาในใจจริงๆ

1. อาจารย์เป็นคนที่มีความคิดแปลกใหม่ ถูกใจครับ
แต่อาจารย์ยังไม่สามารถนำพานิสิตทั้งห้อง
ให้ร่วมคิด ร่วมกิจกรรม ไปในทางเดียวกันได้
... ไม่ได้แปลว่าให้อาจารย์คุมความคิดเด็ก
ผมหมายถึง อาจารย์ปล่อยเสรีเกินไป
นิสิตบางคนก็เลย "ไม่ค่อยใส่ใจ" อะไรๆ นัก
เรียกเป็นภาษาชาวบ้านว่า ..ดูดาย
..เช่น คณะ "ตู๊ด" (เซ็นเซอร์) มากันเป็นกลุ่ม
มานั่งไขว่ห้างโชว์ขาอ่อนอยู่ 2 ชั่วโมง
แสบตาผมมาก .. ห้องยิ่งสว่างๆ อยู่
ไม่มีทีท่าว่าอยากมาใช้ความคิดอะไรเลย..
คณะ "ตื๊ด" ก็มากันแบบหลงผิด
ไม่ได้ตั้งใจมาเรียนหรอก บ่นว่างานเยอะอีกต่างหาก
... "ขี้เกียจคิด".. อ้าว..
คณะ "ปี๊ป" ก็มาแบบฉันจะไม่เปิดใจรับคนอื่นเลย
ฉันมั่นใจในฉัน และมั้นใจในคณะฉันมาก..
ออกไอเดียก็จะยกย่องแต่คณะตัวเอง..
ฯลฯ กลายเป็นคาบชิงเด่นยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก..

2. Man Show เมื่อวาน มีคนเข้าใจผิดไปหลายคน
เช่นคนที่ออกมาพูดเรื่องการคำนวณวันเกิด
ให้กลายเป็นสี aura ประจำตัว..
หรืออีกคนออกมาพูดเรื่องภาษามือ
โดยการนำภาพมาให้ดูแล้วบอกว่า ทำอย่างงี้แปลว่างี้..
ผมว่า มันไม่ใช่จุดประสงค์ของ Man Show แน่ๆ..
Man Show น่าจะเป็นการกระตุ้นให้แต่ละคนมั่นใจ
ที่จะแสดงความเป็นตัวเอง ไม่ใช่เหรอครับ.. ??
กลายเป็นออกมา present รายงาน ไปได้ยังไงเนี่ย

3. ท้ายชั่วโมงยิ่งแล้วใหญ่
ทำเอาผมหมดศรัทธาในวิชานี้ไปแล้ว
เมื่อวานเป็นคาบสุดท้ายของการเรียน
ทุกคนรู้จักคุ้นหน้ากันหมด
อาจารย์กลับไปแล้ว
ปล่อยให้นิสิตตกลงเตรียมงานนิทรรศการกันเอง
สภาพเป็นยังไงผมไม่อยากเล่าเลยครับ..


ทีนี้พออ่านจบแล้วก็อย่าเพิ่งหาว่าผมมี อคติ ล่ะ
ผมไม่ได้ว่าวิชานี้นะครับ
ผมแค่ว่าคนไม่เต็มใจลงเรียนวิชานี้ต่างหาก
.. ไม่รู้สิครับ ..
อ่านจบแล้ว ใครไม่ชอบ.. จะว่าผมไม่สร้างสรรค์ก็ได้นะ :)
รู้แต่ว่า ถ้าผมมีโอกาส จะลงเรียนวิชานี้เต็มๆ แน่ครับ..
Creative Thinking.

--------------------------------------------------------------------


เพลงประจำวันนี้ : ขอบใจที่เป็นห่วง / สวอน





--------------------------------------------------------------------